หนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบประเทศญี่ปุ่นก็คือฮอกไกโด โดยเฉพาะฮอกไกโดในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ด้วยธรรมชาติที่งดงามและมีความหลากหลาย และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ไปดู 15 ที่เที่ยวฮอกไกโดที่ไม่ควรพลาดในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ตั้งแต่สวนสาธารณะ ทะเลสาบ ไปจนถึงน้ำตกและภูเขาที่มีเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม พร้อมประสบการณ์ที่จะเต็มไปด้วยสีสันของฮอกไกโด
ช่วงเวลาที่ควรเที่ยวฮอกไกโด
ฮอกไกโดในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของทิวทัศน์ที่งดงาม สำหรับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีในฮอกไกโด อยู่ที่ปลายเดือนกันยายนถึงปลายเดือนตุลาคม ในช่วงเวลานี้ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นเหลือง ส้ม และแดง โดยจะเริ่มเปลี่ยนสีจากทางเหนือลงมาทางใต้
1. โจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen)
Jozankei Onsen เป็นเมืองน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาอันงดงามของอุทยานแห่งชาติชิโกะซุ-โทยะ (Shikotsu-Toya National Park) ห่างจากตัวเมืองซัปโปโรไปเพียง 1 ชั่วโมง ด้วยความสะดวกในการเดินทาง บวกกับบรรยากาศธรรมชาติที่โอบล้อม Jozankei Onsen จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการผ่อนคลายในบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ
- ที่อยู่ : Jozankei Onsen, Minami-ku, Sapporo, Hokkaido
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/GpuRtcn7YcHspSmNA
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี (ค่าใช้จ่ายสำหรับการแช่น้ำพุร้อนขึ้นอยู่กับสถานที่)
- วิธีเดินทาง : โดยสารรถบัส Jotetsu จากสถานี Sapporo ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณ 800 เยน
2. ชิโรกาเนะ บลู พอนด์ (Shirogane Blue Pond)
Shirogane Blue Pond บ่อน้ำที่โด่งดังจากสีของน้ำที่เป็นสีฟ้าสดใส ซึ่งเกิดจากแร่ธาตุอะลูมิเนียมที่สะท้อนแสงแดด ผสมกับตะกอนแร่ธาตุจากต้นไม้ ตั้งอยู่ในเมืองบิเอะ (Biei) ฮอกไกโด รายล้อมด้วยภูเขาไฟโทคะจิ (Tokachi Volcano) ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ทิวทัศน์โดยรอบบ่อน้ำจะถูกปกคลุมไปด้วยสีสันสดใสของใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้บรรยากาศยิ่งสวยงาม และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว
- ที่อยู่ : Shirogane, Biei, Kamikawa District, Hokkaido
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/7hgrBUYqWoeW8A7t6
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- วิธีเดินทาง : นั่งรถบัสจากสถานี Asahikawa ไปยังสถานี Biei และต่อรถแท็กซี่
3. โกเรียวคาคุ (Goryokaku)
Goryokaku เป็นป้อมปราการรูปดาวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด ป้อมนี้สร้างขึ้นในช่วงปลายยุคเอโดะ โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบตะวันตกเพื่อเป็นฐานทัพและศูนย์กลางการป้องกัน แต่ในปัจจุบันได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะที่มีความงดงาม ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ทิวทัศน์รอบๆ โกเรียวคาคุจะเต็มไปด้วยสีสันสดใสของใบไม้ที่เปลี่ยนสี โดยเฉพาะเมื่อมองจากหอคอย Goryokaku นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทั้งหมดของสวนและป้อมปราการรูปดาวที่สวยงามได้ ที่นี่ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับสงครามโบชินในช่วงปี 1868-1869 ซึ่งเป็นการต่อสู้กันระหว่างกองกำลังที่ภักดีต่อโชกุน และผู้ที่สนับสนุนการกลับคืนสู่การปกครองของจักรพรรดิ
- ที่อยู่ : 43-9 Goryokaku-cho, Hakodate-shi, Hokkaido
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/BPQrUpkEiuuLE7nZ8
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี (เข้าหอคอยมีค่าใช้จ่าย)
- วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟจากสถานี JR Sapporo ไปยังสถานี Hakodate และต่อรถบัสหรือแท็กซี่
4. โซอุนเคียว (Sounkyo)
Sounkyo เป็นหุบเขาที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง (Daisetsuzan National Park) จังหวัดฮอกไกโด มีชื่อเสียงในเรื่องของทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งภูเขาและหน้าผาจะถูกปกคลุมไปด้วยสีสันสดใสของใบไม้ที่เปลี่ยนสีจากเขียวเป็นเหลือง ส้ม และแดง Sounkyo ยังเป็นที่ตั้งของน้ำตกที่งดงามสองแห่งคือน้ำตกกินกะ (Ginga Falls) และน้ำตกริวเซ (Ryusei Falls) โดยน้ำตกทั้งสองแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กันและเป็นจุดชมวิวยอดนิยม นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่า และน้ำพุร้อนที่นักท่องเที่ยวสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
- ที่อยู่ : Sounkyo, Kamikawa-cho, Kamikawa-gun, Hokkaido
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/s38BWfxQvC5LGrWc7
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟด่วนจากสถานี JR Sapporo ไปยังสถานี Asahikawa และต่อรถบัสประมาณ 1.55 ชั่วโมง
5. อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง (Daisetsuzan National Park)
Daisetsuzan National Park เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคฮอกไกโด มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 2,267 ตารางกิโลเมตร อุทยานแห่งนี้เป็นที่รู้จักในเรื่องของทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภูเขาสูง น้ำตกที่สวยงาม ทุ่งหญ้า และป่าไม้ที่เขียวขจี นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินป่า การปีนเขา และการชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้ที่นี่ โดยมีเส้นทางเดินป่าหลากหลายระดับความยากง่ายให้เลือก นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่สามารถแช่ตัวเพื่อผ่อนคลายหลังจากการเดินป่าได้
- ที่อยู่ : Sounkyo, Kamikawa, Kamikawa District, Hokkaido
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/N49B7eSR5hpT5ctUA
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- วิธีเดินทาง : เดินทางด้วยรถไฟจากซัปโปโรไปยังสถานี Asahikawa และต่อรถบัส
6. มหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Hokkaido University)
Hokkaido University เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ในประเทศญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นที่รู้จักในด้านการวิจัยและการศึกษาในหลากหลายสาขา รวมถึงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การแพทย์ และการเกษตร ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี มหาวิทยาลัยฮอกไกโดจะมีทิวทัศน์ที่งดงามด้วยต้นแปะก๊วยที่เรียงรายบนถนนยาวกว่า 380 เมตร จนกลายเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยม นอกจากนี้ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยยังมีสวนและพื้นที่สีเขียวที่ทำให้บรรยากาศภายในร่มรื่นและเหมาะแก่การเดินเล่น
- ที่อยู่ : 5 Chome Kita 8 Jonishi, Kita Ward, Sapporo, Hokkaido
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/uuqh1u7zvoBTqqQu6
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- วิธีเดินทาง : เดิน 7 นาทีจากสถานี JR Sapporo
7. ภูเขาโมอิวะ (Mount Moiwa)
ภูเขา Moiwa เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ในเมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ภูเขาแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีวิวทิวทัศน์งดงามของเมืองซัปโปโรและทะเลญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวบนยอดภูเขา Moiwa ได้โดยการนั่งกระเช้าลอยฟ้า (Mount Moiwa Ropeway) และต่อด้วยรถรางโมอิวะ (Moiwa Sancho Car) ที่จะนำขึ้นไปยังยอดภูเขา ที่นี่ยังมีหอชมวิวที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้โดยรอบแบบ 360 องศา และยังมีร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ บนยอดภูเขาให้บริการ
- ที่อยู่ : Moiwayama, Minami Ward, Sapporo, Hokkaido
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/gPqRFi4b2ApmJnPZ8
- ค่าเข้าสถานที่ : ค่าโดยสารกระเช้าลอยฟ้าไปกลับประมาณ 1,700 เยน
- วิธีเดินทาง : โดยสารรถรางจากใจกลางเมืองซัปโปโร ไปยังสถานี Ropeway Iriguchi และต่อรถบัสสาย Kappa Liner
8. สวนโคเซ็ตสึเอ็น (Kosetsuen Garden)
สวน Kosetsuen หรือเรียกอีกชื่อว่าสวนมิโฮระชิ (Miharashi Park) เป็นสวนญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด สวนนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น สวน Kosetsuen มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วยต้นไม้หลากหลายชนิดประมาณ 150 ชนิด และมีอาคารที่สร้างขึ้นในยุคเมจิและไทโช ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สวน Kosetsuen จะถูกแต่งแต้มด้วยสีสันสดใสของใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้บรรยากาศของสวนดูงดงามและโรแมนติก นอกจากนี้ยังมีการประดับไฟสวยงามยามค่ำคืนในช่วงเทศกาลฮาโกดาเตะ (Hakodate Festival) ที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนของทุกปีอีกด้วย
- ที่อยู่ : 56 Miharashicho, Hakodate, Hokkaido
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/HiD1v9CVDBR3gobB9
- ค่าเข้าสถานที่ : 300 เยน
- วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟจากสถานี JR Sapporo ไปยังสถานี Hakodate และต่อรถบัสหรือแท็กซี่
9. ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya)
ทะเลสาบ Toya เป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ในแอ่งภูเขาไฟ ในอุทยานแห่งชาติชิโคะสึ-โทยะ (Shikotsu-Toya National Park) จังหวัดฮอกไกโด ทะเลสาบแห่งนี้มีลักษณะเป็นรูปวงกลม และมีเกาะอยู่กลางทะเลสาบชื่อว่านากาจิมะ (Nakajima) ความงดงามของทะเลสาบ Toya เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของทิวทัศน์ที่เงียบสงบและน้ำที่ใสสะอาด โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมหลากหลาย อาทิ การล่องเรือชมวิวรอบทะเลสาบ การเดินป่าบนเส้นทางรอบทะเลสาบ และการแช่น้ำพุร้อนในรีสอร์ทที่ตั้งอยู่รอบทะเลสาบ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของเทศกาลดอกไม้ไฟโทยะ (Toya Fireworks Festival) ที่จะจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนอีกด้วย
- ที่อยู่ : Toyako, Abuta District, Hokkaido
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/THUefWj8C4yum9DD6
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟจากสถานี JR Sapporo ไปยังสถานี Toya และต่อรถบัส
10. นิเซโกะ (Niseko)
Niseko เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของฮอกไกโด โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่เป็นแหล่งเล่นสกีและสโนว์บอร์ดยอดนิยม แต่ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี Niseko ก็มีความงดงามไม่แพ้กัน ด้วยทิวทัศน์ของภูเขาและป่าไม้ที่เปลี่ยนสีจากเขียวเป็นเหลืองส้มและแดง ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยว ทั้งการเดินป่า การปั่นจักรยานเสือภูเขา และการล่องแก่ง นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำพุร้อน ให้ผ่อนคลายหลังจากการทำกิจกรรม พร้อมร้านอาหารและคาเฟ่หลายแห่งให้บริการ ทั้งอาหารท้องถิ่นและอาหารนานาชาติ
- ที่อยู่ : Niseko, Abuta District, Hokkaido
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/VevPPkY1m8yaBybeA
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี (แต่บางกิจกรรมอาจมีค่าใช้จ่าย)
- วิธีเดินทาง : โดยสารรถไฟจากสถานี JR Sapporo ไปยังสถานี Niseko
11. อุทยานแห่งชาติโอนุมะ (Onuma National Park)
อุทยานแห่งชาติ Onuma มีชื่อเสียงเรื่องทะเลสาบและเกาะเล็กๆ ที่กระจายอยู่ทั่วทะเลสาบ รวมถึงวิวทิวทัศน์ที่งดงามของภูเขาโคมากาทาเกะ (Mount Komagatake) ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ในอุทยานแห่งชาติ Onuma เช่น การล่องเรือชมวิว การพายเรือแคนู การเดินป่าที่มีให้เลือกหลากหลายเส้นทาง และการปั่นจักรยาน นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวหลายแห่งที่สามารถมองมุมสวยๆ ของทะเลสาบและภูเขาได้
- ที่อยู่ : Onuma Quasi-National Park, Nanae, Hokkaido
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/sVZWkFpL4BsyeQeD6
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- วิธีเดินทาง : โดยสารรถไฟจากสถานี Hakodate ไปยังสถานี Onuma Koen
12. น้ำตกกินกะและน้ำตกริวเซ (Ginga Falls and Ryusei Falls)
น้ำตก Ginga และน้ำตก Ryusei ตั้งอยู่ในหุบเขาโซอุนเคียว (Sounkyo Gorge) ในอุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง จังหวัดฮอกไกโด น้ำตกทั้งสองแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของความงดงามและเป็นจุดชมวิวที่น่าประทับใจ โดยน้ำตก Ginga มีฉายาว่า "น้ำตกกาแล็กซี่" มีลักษณะเป็นเส้นน้ำตกที่บางและสูง ไหลลงมาจากหน้าผา ทำให้ดูเหมือนกับเส้นด้ายสีขาว ส่วนน้ำตก Ryusei นิยมเรียกอีกชื่อว่า "น้ำตกดาวตก" มีลักษณะเป็นเส้นน้ำตกที่ไหลแรงและกว้างกว่า โดยทั้งสองน้ำตกนี้ตั้งอยู่ใกล้กันและมักถูกเรียกรวมกันว่า "คู่รักน้ำตก" นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปชมน้ำตกได้ง่ายๆ ด้วยการเดินเท้าจากจุดจอดรถที่ใกล้เคียง น้ำตกทั้งสองแห่งยังมีจุดชมวิวที่สามารถเห็นทิวทัศน์โดยรอบที่สวยงามได้
- ที่อยู่ : Sounkyo, Kamikawa, Kamikawa District, Hokkaido
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/Wi7rWqqySvDjkrKG9
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟจากสถานี JR Sapporo ไปยังสถานี Asahikawa และต่อรถบัสประมาณ 1.55 ชั่วโมง
13. อุทยานแห่งชาติชิโคะสึ-โทยะ (Shikotsu-Toya National Park)
อุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya ตั้งอยู่ในภูมิภาคฮอกไกโดของญี่ปุ่น เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติและทิวทัศน์ที่งดงาม ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 993.02 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยทะเลสาบ Shikotsu (Lake Shikotsu) และทะเลสาบ Toya (Lake Toya) ซึ่งเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่มีน้ำใสและล้อมรอบด้วยภูเขา นอกจากนี้ยังมีแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติหลายแห่ง เช่น โนโบริเบ็ตสึ (Noboribetsu) และโจซังเค (Jozankei) เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและชมธรรมชาติอย่างแท้จริง นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ เช่น การเดินป่า การปีนเขา การล่องเรือ และการปั่นจักรยานเสือภูเขา นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ เช่น ภูเขาอุสึ (Mount Usu) และภูเขาโชวะชินซัน (Mount Showa-Shinzan)
- ที่อยู่ : Minami Ward, Abuta District, Hokkaido
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/wuLm5RpAixCNjRQQ6
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- วิธีเดินทาง : โดยสารรถบัสจากสถานี Sapporo ไปยังสถานี Toya และต่อรถบัสหรือแท็กซี่
14. ทะเลสาบคุชชาโระ (Lake Kussharo)
ทะเลสาบ Kussharo เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติอะคัง-มะชุ (Akan-Mashu National Park) จังหวัดฮอกไกโด ทะเลสาบแห่งนี้มีความยาวประมาณ 26 กิโลเมตร และเป็นที่รู้จักในเรื่องของทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ทะเลสาบคุชชาโระยังมีแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติที่สามารถแช่เท้าได้ฟรี รวมถึงกิจกรรมต่างๆ เช่น การล่องเรือ การพายเรือคายัค และการเดินป่า นักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ที่ยอดเขา Mokoto (Mount Mokoto) ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของทะเลสาบได้
- ที่อยู่ : Teshikaga, Kawakami District, Hokkaido
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/yt5pGSihdcb8W9ky8
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- วิธีเดินทาง : โดยสารรถไฟจากสถานี JR Abashiri ไปยังสถานี Mashu และต่อรถบัส
15. สวนฮาโกดาเตะ (Hakodate Park)
สวน Hakodate เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในเมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณที่พักอาศัยของชาวต่างชาติในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และเป็นที่รู้จักในเรื่องของความสวยงามและบรรยากาศที่เงียบสงบ สวนฮาโกดาเตะมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย รวมถึงสนามเด็กเล่น สวนสัตว์ขนาดเล็ก และสระน้ำ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินเล่นที่สวยงามและเป็นที่นิยมสำหรับการเดินเล่นพักผ่อนและการถ่ายภาพ สวนนี้ยังเป็นจุดชมดอกซากุระที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิของฮอกไกโดอีกด้วย
- ที่อยู่ : Aoyagi-cho, Hakodate, Hokkaido
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/BEJGvkVmQm7xSj4a9
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟจากสถานี JR Sapporo ไปยังสถานี Hakodate และต่อรถบัสหรือแท็กซี่
โปรโมชั่นสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC จองตั๋วเครื่องบินหรือโรงแรม ที่ Trip.com
ใช้คะแนน KTC FOREVER แลกรับโค้ดส่วนลดตั๋วเครื่องบิน
3,000 คะแนน KTC FOREVER = โค้ดส่วนลดตั๋วเครื่องบิน 360 บาท โดยมียอดขั้นต่ำ 2,000 บาท ต่อ 1 การจอง
5,000 คะแนน KTC FOREVER = โค้ดส่วนลดตั๋วเครื่องบิน 650 บาท โดยมียอดขั้นต่ำ 3,000 บาท ต่อ 1 การจอง
10,000 คะแนน KTC FOREVER = โค้ดส่วนลดตั๋วเครื่องบิน 1,400 บาท โดยมียอดขั้นต่ำ 5,000 บาท ต่อ 1 การจอง
ใช้คะแนน KTC FOREVER แลกรับโค้ดส่วนลดโรงแรม
3,000 คะแนน KTC FOREVER = โค้ดส่วนลดโรงแรม 360 บาท โดยมียอดขั้นต่ำ 2,000 บาท ต่อ 1 การจอง
จองผ่าน www.trip.com และ แอปพลิเคชัน Trip.com
หมายเหตุ ส่วนลดมีจำนวนจำกัด ผู้ที่มาก่อนมีสิทธิ์ได้รับก่อน เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1 พ.ค. 67 – 31 มี.ค. 68
ระยะเวลาเดินทาง : 1 พ.ค. 67 – 30 มิ.ย. 68
ฮอกไกโดในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามและน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น นอกจากการชมความงามของธรรมชาติแล้ว ยังได้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมต่างๆ เช่น การเดินป่า การพายเรือ และการแช่น้ำพุร้อน ให้ทุกการเดินทางราบรื่นและสะดวกสบาย ด้วยการใช้จ่ายในต่างประเทศผ่านบัตรเครดิต KTC นอกจากจะปลอดภัยด้วยระบบ Contactless แล้ว ยังดูรายการใช้จ่ายพร้อมควบคุมการใช้บัตรผ่านแอป KTC Mobile ได้ พิเศษกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งการเข้าใช้บริการห้องรับรอง Airport Lounge และการสะสมคะแนนที่สามารถแลกรับเป็นเครดิตเงินคืน หรือส่วนลดเพิ่มได้ ทั้งไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย สมัครบัตรเครดิต KTC วันนี้ เพื่อทริปการเดินทางที่คุ้มค่าและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
จองเที่ยวออนไลน์ ต้องบัตรเครดิต KTC
#KTCเรื่องเที่ยวบัตรเดียวครบ