ในยุคดิจิทัลที่การใช้จ่ายและการทำธุรกรรมทางการเงินเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว บัตรเครดิตได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของคนจำนวนมาก แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่าบัตรเครดิต คืออะไร ใช้ยังไง มีข้อดีและข้อควรระวังอะไรบ้าง ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือผู้ใช้ที่ต้องการเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับบัตรเครดิต บทความนี้มีคำตอบที่จะช่วยให้คุณใช้เครื่องมือทางการเงินนี้ได้อย่างชาญฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น
บัตรเครดิต คืออะไร?
บัตรเครดิต (Credit Card) คือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้จ่ายแทนเงินสด จัดเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทหนึ่ง ออกโดยสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต ผู้ถือบัตรสามารถใช้บัตรเครดิตในการจ่ายซื้อสินค้าหรือบริการก่อน แล้วจึงชำระเงินคืนในวันที่กำหนดตามเงื่อนไข หากชำระไม่ตรงตามกำหนด จะมีดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 16 ต่อปีตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 8 ส.ค. 67)
บัตรเครดิตมาพร้อมสิทธิประโยชน์หลากหลาย เช่น สะสมคะแนนจากการใช้จ่ายผ่านบัตร, ส่วนลดจากร้านค้าที่ร่วมรายการ, โปรโมชั่นผ่อนชำระดอกเบี้ย 0%, รับเครดิตเงินคืนจากการใช้จ่ายผ่านบัตร, แลกคะแนนเป็นสินค้า บริการ ส่วนลดหรือเครดิตเงินคืน, โอนคะแนนเป็นไมล์สายการบิน, การเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า, และห้องรับรองพิเศษตามสนามบิน ผู้ใช้ควรศึกษาเงื่อนไขให้ครบถ้วนเพื่อได้รับประโยชน์สูงสุดตามไลฟ์สไตล์ของตนเอง
ข้อดีและข้อควรระวังของบัตรเครดิตมีอะไรบ้าง?
บัตรเครดิตมีทั้งข้อดีและข้อควรระวัง การใช้อย่างมีความรู้จะช่วยเพิ่มประโยชน์ทางการเงินได้ แต่การใช้อย่างไม่ระมัดระวังก็อาจนำไปสู่ปัญหาได้เช่นกัน ดังนั้น เราจึงควรทำความเข้าใจเพื่อใช้บัตรเครดิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย เพื่อผลประโยชน์ของตัวเราเองอย่างสูงสุด
ข้อดี |
ข้อควรระวัง |
ไม่ต้องพกเงินสดสะดวกในการใช้จ่าย ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทอน |
เสี่ยงใช้จ่ายเกินตัว |
เพิ่มสภาพคล่อง |
หากชำระไม่ตรงตามกำหนด ชำระขั้นต่ำ ชำระไม่เต็มจำนวน จะต้องเสียดอกเบี้ยตามที่ธนาคาร/สถาบันการเงินกำหนด |
มีโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ |
บางบัตรมีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี |
ความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากการพกเงินสด มีระบบป้องกันการโจรกรรม |
- |
สร้างประวัติทางการเงิน การใช้และชำระตรงเวลาช่วยสร้างเครดิตที่ดี เป็นประโยชน์ต่อการขอสินเชื่อในอนาคต |
- |
บัตรเครดิตจะแบ่งเป็น 4 ประเภทหลัก
วิธีการเลือกสมัครบัตรเครดิต
การเลือกสมัครบัตรเครดิตควรพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัยเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการและสถานะทางการเงิน สามารถดูลิสต์ตัดสินใจดังต่อไปนี้ได้
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้า ค่าธรรมเนียมรายปี และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่เราต้องจ่ายให้ผู้ออกบัตร
- รวมถึงเงื่อนไขการขอยกเว้นค่าธรรมเนียม
- รอบระยะเวลาบัญชี
- หรือระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยในแต่ละรอบบิล ก่อนจะเริ่มคิดดอกเบี้ยตามที่ได้กำหนดไว้
- การชำระเงินผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ความสะดวกรวดเร็ว
- ค่าใช้จ่ายในการชำระเงิน
- สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่จะได้รับ โดยพิจารณาว่าตรงกับความต้องการหรือการใช้ชีวิตของเราหรือไม่
ข้อมูลจาก https://www.bot.or.th/th/satang-story/digital-fin-lit/creditcard.html
เครือข่ายการชำระเงินบัตรเครดิตคืออะไร?
เครือข่ายการชำระเงินบัตรเครดิตเป็นระบบเชื่อมโยงระหว่างผู้ถือบัตร ร้านค้า และสถาบันการเงิน ทำให้การชำระเงินสะดวกและปลอดภัยเช่น Visa หรือ Mastercard คือตัวอย่างของ Payment Gateway ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการชำระเงิน นอกจาก Visa และ Mastercard แล้ว ยังมีเครือข่ายอื่นๆ ที่สำคัญในตลาดการชำระเงินทั่วโลก โดยแต่ละเครือข่ายมีประวัติ จุดเด่น และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกัน
- Visa
Visa เป็นผู้นำในตลาดบัตรเครดิตระดับโลก ก่อตั้งโดย Bank of America ในปี ค.ศ. 1958 ปัจจุบันให้บริการในกว่า 200 ประเทศ นอกจากบัตรเครดิตแล้ว ยังมีบริการบัตรเดบิตและบัตรเติมเงิน Visa มีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยและการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลก - Mastercard
Mastercard ก่อตั้งในปี ค.ศ.1966 เป็นคู่แข่งสำคัญของ Visa ให้บริการในมากกว่า 210 ประเทศ มีจุดเด่นในการนำเสนอนวัตกรรมการชำระเงิน เช่น การชำระเงินไร้สัมผัส นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม Mastercard Priceless ที่มอบประสบการณ์พิเศษให้ลูกค้า - JCB (Japan Credit Bureau)
JCB เป็นเครือข่ายบัตรเครดิตจากญี่ปุ่น ก่อตั้งในปี ค.ศ.1961 แม้จะเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น แต่ก็ได้รับการยอมรับในกว่า 190 ประเทศ JCB มีจุดเด่นในการให้สิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น และมีความร่วมมือกับสถาบันการเงินทั่วโลก - UnionPay
UnionPay เป็นเครือข่ายบัตรเครดิตจากจีน ก่อตั้งในปี ค.ศ.2002 เติบโตอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในเอเชีย ปัจจุบันใช้ได้ใน 181 ประเทศ มีบริการชำระเงินออนไลน์และในแอปพลิเคชัน รวมถึงรองรับการชำระเงินข้ามพรมแดนในหลายสกุลเงิน - American Express (AMEX)
American Express ก่อตั้งในปี ค.ศ.1850 เริ่มต้นจากธุรกิจขนส่งก่อนขยายสู่บริการทางการเงิน AMEX เน้นกลุ่มลูกค้าระดับบนและองค์กรธุรกิจ มีทั้งบัตรชาร์จการ์ดและบัตรเครดิต โดดเด่นด้านการให้บริการสิทธิประโยชน์ระดับพรีเมี่ยม เช่น ประกันการเดินทาง และการเข้าใช้เลานจ์สนามบิน
ข้อมูลจาก
- Visa : https://www.visa.co.th/th_TH/about-visa.html
- Mastercard : https://en.wikipedia.org/wiki/Mastercard
- JCB : https://www.longtunman.com/27457 ,
- https://www.global.jcb/en/about-us/history/index.html
- UnionPay : https://en.wikipedia.org/wiki/UnionPay
- American Express : https://th.wikipedia.org/wiki/อเมริกัน_เอ็กซ์เพรส
คำศัพท์เกี่ยวกับบัตรเครดิตที่ควรรู้
บัตรเครดิตมีคำศัพท์เฉพาะมากมาย การรู้จักคำเบื้องต้นเหล่านี้จะช่วยให้คุณใช้บัตรได้อย่างเข้าใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น
- วงเงิน (Credit Limit)
จำนวนเงิน/เครดิตสูงสุดที่สามารถใช้จ่ายผ่านบัตรได้ พิจารณาอนุมัติโดยผู้ออกบัตร โดยพิจารณาจากคุณสมบัติและรายได้ของผู้ถือบัตร - ค่าธรรมเนียมรายปี (Annual Fee)
ค่าใช้จ่ายประจำปีที่ผู้ถือบัตรต้องชำระให้กับผู้ออกบัตร บางกรณีอาจได้รับการยกเว้นในปีแรกหรือเมื่อมียอดใช้จ่ายถึงเกณฑ์ที่กำหนด - ดอกเบี้ยต่อปี (Annual Percentage Rate หรือ APR)
อัตราดอกเบี้ยที่คิดเป็นร้อยละต่อปีสำหรับยอดค้างชำระ รวมค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ใช้เพื่อเปรียบเทียบต้นทุนการใช้บัตรเครดิตระหว่างผู้ออกบัตรต่างๆ - ค่าธรรมเนียมการเบิกเงินสดล่วงหน้า (Cash Advance Fee)
ค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นเมื่อเบิกเงินสดจากบัตรเครดิต อาจคิดเป็นเปอร์เซ็นต์หรืออัตราคงที่ต่อครั้ง - รหัสยืนยันบัตรเครดิต (Credit Verification Value หรือ CVC)
รหัสสามหรือสี่หลักบนบัตรที่ใช้เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของบัตร โดยเฉพาะในธุรกรรมออนไลน์หรือทางโทรศัพท์ - ผู้ถือบัตรหลัก (Principal Cardholder)
ผู้ถือบัตรหลักคือเจ้าของบัตรเครดิตที่ผู้สมัครยื่นหลักฐานการสมัคร เป็นเจ้าของวงเงิน และเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการชำระยอดใช้จ่าย หากมีบัตรเสริมพ่วงอยู่ด้วย ก็จะใช้วงเงินร่วมกับผู้ถือบัตรเสริม - ผู้ถือบัตรเสริม (Supplementary Cardholder)
ผู้ถือบัตรเสริมที่พ่วงกับบัตรหลัก ใช้วงเงินร่วมกับบัตรหลัก แต่ผู้ถือบัตรหลักเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
บัตรเครดิตเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้จ่ายและมอบสิทธิประโยชน์หลากหลาย อีกทั้งยังช่วยในการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะต้องระมัดระวังเรื่องความสามารถในการชำระหนี้และวินัยทางการเงิน แต่หากใช้อย่างมีความรู้ มีการวางแผนการใช้งานอย่างรอบคอบ บัตรเครดิตจะเป็นประโยชน์อย่างมากในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นผู้ที่ยังไม่เคยมีบัตรเครดิตและสนใจที่จะสมัคร ควรทำความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับบัตรเครดิตว่าคืออะไร มีกี่ชนิด ใช้งานอย่างไร เพื่อความคุ้มค่ามากที่สุดนั่นเอง
สำหรับผู้ที่เริ่มสนใจใช้บัตรเครดิต บัตรเครดิต KTC พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายและโปรโมชั่นอีกเพียบ เพียงเป็นผู้มีรายได้ 15,000 บาทขึ้นไป / เดือน ก็สามารถ สมัครบัตรเครดิต KTC ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC