จัดให้ครบ รวมข้อสอบใบขับขี่ 2567 พร้อมเฉลยแบบผ่านชัวร์

ใครที่กำลังเตรียมตัวทำใบขับขี่ใหม่ หรือกำลังจะต่อใบขับขี่ แต่ยังไม่รู้ว่าแนวข้อสอบใบขับขี่ 2567 มีเปลี่ยนไปจากปีก่อนๆ บ้างหรือเปล่า และมีเรื่องอะไรบ้างที่ต้องเตรียมตัวอ่านก่อนทำข้อสอบ ไม่ต้องกังวลกันไปเลย เพราะวันนี้ทาง KTC เรารวบรวมแนวทางข้อสอบใบขับขี่พร้อมเฉลยมาฝากทุกคนกัน รับรองว่าอ่านแล้วสอบผ่านฉลุยแน่นอน

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• ใครบ้างต้องทำข้อสอบใบขับขี่ภาคทฤษฎี (ข้อเขียน)
• เฉลยแนวข้อสอบใบขับขี่ 2567 ครบทั้ง 9 หมวด (50 ข้อ)
• อยากทำข้อสอบใบขับขี่ 2567 ผ่าน ควรเตรียมตัวอย่างไร
• สรุปบทความ รวมข้อสอบใบขับขี่ 2567 พร้อมเฉลยแบบผ่านชัวร์

ใครบ้างต้องทำข้อสอบใบขับขี่ภาคทฤษฎี (ข้อเขียน)

ผู้ที่ต้องทำข้อสอบใบขับขี่ภาคทฤษฎี หรือการสอบข้อเขียนทั้งหมด จะแบ่งออกเป็น 3 กรณี ดังนี้

• ผู้ทำใบขับขี่ครั้งแรก
• ผู้ที่ขาดต่อใบขับขี่เกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี (สอบข้อเขียนใหม่เพียงอย่างเดียว)
• ผู้ที่ขาดต่อใบขับขี่เกิน 3 ปี (สอบข้อเขียน และสอบภาคปฏิบัติใหม่ทั้งหมด)

เฉลยแนวข้อสอบใบขับขี่ 2567 ครบทั้ง 9 หมวด (50 ข้อ)

ข้อสอบใบขับขี่ 2567 จะแบ่งออกเป็น 9 หมวด รวมทั้งสิ้น 50 ข้อ เป็นข้อสอบแบบปรนัยที่ต้องเลือกข้อที่ถูกต้อง โดยที่ผู้สอบจะต้องทำให้ได้เกิน 45 ข้อขึ้นไป หรือ 90% จากทั้งหมด จึงจะผ่านการทำข้อสอบใบขับขี่ภาคทฤษฎี

1. ข้อสอบใบขับขี่หมวดกฎหมายว่าด้วยรถยนต์

• การโอนรถจะต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน
• การเปลี่ยนสีรถจะต้องต่อนายทะเบียนภายใน 7 วัน
• ใบอนุญาตขับรถชั่วคราวมีอายุ 2 ปี
• การต่ออายุใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล 5 ปี สามารถต่อล่วงหน้าได้ 3 เดือน
• ผู้ขับขี่ที่ใช้ใบอนุญาตขับรถสิ้นอายุ จะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
• ผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
• ผู้ที่กระทำผิดกฎหมายจราจรทางบก และได้รับใบสั่งจากเจ้าพนักงานจราจร จะต้องติดต่อชำระค่าปรับภายใน 7 วัน
• ผู้ขับขี่จะต้องมีสำเนาภาพถ่ายใบคู่มือจดทะเบียนรถ เพื่อใช้คู่กับใบอนุญาตขับรถในระหว่างขับขี่ตลอดเวลา

2. ข้อสอบใบขับขี่หมวดกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก

• การหยุดรถบริเวณทางแยก ที่ผู้ขับขี่ต้องหยุดหลังเส้นแนวหยุด
• บริเวณที่ห้ามแซง เช่น ทางโค้งรัศมีแคบ ส่วนบริเวณที่สามารถแซงได้ คือ บริเวณทางตรง ทางโล่ง หรือทางที่ปลอดภัย แต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับแซง
• การจอดรถให้ห่างจากขอบทางไม่เกิน 25 เซนติเมตร
• การขับผ่านทางร่วมทางแยก จะต้องปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรอย่างเคร่งครัด
• ผู้ขับขี่ที่ต้องการเลี้ยว จะต้องชะลอรถ และเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร
• รถที่นำมาเดินรถได้ จะต้องมีเสียงเครื่องยนต์ดังในระดับ 80 เดซิเบล
• สัญญาณไฟจราจรสีแดงรูปกากบาทเฉียง ที่อยู่เหนือช่องเดินรถ หมายถึง ห้ามมิให้ผู้ขับขี่เดินรถในช่องทางนั้น
• เขตปลอดภัย หมายถึง พื้นที่เดินรถที่มีเครื่องหมายแสดงไว้ให้เห็นชัดเจนทุกเวลา สำหรับคนเดินเท้าที่ข้ามทางหยุดรอ หรือให้คนที่ขึ้นลงจากรถหยุดรอก่อนข้ามทางไป

3. ข้อสอบใบขับขี่หมวดเครื่องหมายพื้นทาง

• เครื่องหมายพื้นทางสามเหลี่ยมคว่ำลง หมายถึง ควรขับรถให้ช้าลง ถ้าเห็นว่าไม่ปลอดภัยต่อรถคันอื่น หรือคนเดินเท้าในทางข้างหน้า และต้องหยุดรถก่อนถึงเส้น
• เครื่องหมายพื้นทางเป็นเส้นนูนตีถี่ ๆ หมายถึง เส้นชะลอความเร็ว ที่ควรลดระดับความเร็วในการขับขี่ลง
• เครื่องหมายพื้นทางลดความเร็วก่อนถึงแนวเส้นให้ทาง หมายถึง ควรขับรถให้ช้าลง หากเห็นรถคันอื่น หรือคนเดินเท้าในทางขวางหน้า และต้องหยุดรถก่อนถึงแนวเส้นให้ทาง
• เครื่องหมายพื้นทางขับรถภายในช่องจราจร หมายถึง ควรขับรถหายในช่องจราจร ห้ามแซง หรือห้ามขับผ่านโดยคร่อมเส้นโดยเด็ดขาด
• เครื่องหมายพื้นทางขับรถในช่องจราจร หมายถึง ห้ามขับรถคร่อมเส้น แต่สามารถแซงได้
• เครื่องหมายพื้นทางห้ามหยุดรถทุกชนิด หมายถึง ห้ามหยุดรถทุกชนิดภายในกรอบเส้นทแยง ยกเว้นรถที่หยุดรอเพื่อเลี้ยวขวา

4. ข้อสอบใบขับขี่หมวดป้ายบังคับ

• ป้ายบังคับห้ามขับรถแซงหน้าคันอื่น หมายถึง ห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น
• ป้ายบังคับห้ามขับรถทุกชนิดผ่าน หมายถึง ห้ามขับรถทุกชนิดผ่านพื้นที่ติดตั้งป้ายนี้
• ป้ายบังคับห้ามกลับรถทางขวา หมายถึง ห้ามรถทุกชนิดกลับรถทางขวา
• ป้ายบังคับห้ามเลี้ยวขวา หมายถึง ห้ามรถทุกชนิดเลี้ยวไปทางขวา
• ป้ายบังคับห้ามรถบรรทุกทุกชนิดผ่าน หมายถึง ห้ามรถบรรทุกทุกชนิดผ่านทาง
• ป้ายบังคับห้ามจอดรถทุกชนิด หมายถึง ห้ามจอดรถทุกชนิดในบริเวณที่ติดตั้งป้ายนี้
• ป้ายบังคับห้ามหยุดหรือจอดรถทุกชนิด หมายถึง ห้ามหยุดรถ หรือจอดรถทุกชนิดที่ติดตั้งป้ายนี้
• ป้ายบังคับห้ามใช้ความเร็วเกินกว่ากำหนด หมายถึง ห้ามใช้ความเร็วเกินกว่าที่ป้ายกำหนดในบริเวณนี้
• ป้ายบังคับห้ามใช้เสียง หมายถึง ห้ามใช้เสียงในบริเวณนี้

5. ข้อสอบใบขับขี่หมวดป้ายเตือน

• ป้ายเตือนทางข้างหน้าเป็นโค้งซ้าย หมายถึง ทางข้างหน้าเป็นทางโค้งไปทางซ้าย
• ป้ายเตือนทางข้างหน้าคดเคี้ยวจากทางขวา หมายถึง ทางข้างหน้าเป็นทางคดเคี้ยวเริ่มจากทางขวา
• ป้ายเตือนทางข้างหน้ามีทางโทแยกไปทางซ้าย หมายถึง ทางข้างหน้ามีทางโทแยกไปทางซ้าย
• ป้ายเตือนทางข้างหน้าแคบลงกว่าทางที่ผ่าน หมายถึง ทางข้างหน้าแคบลงกว่าทางที่กำขับผ่านทั้งสองด้าน
• ป้ายเตือนขับรถให้ช้าลง พร้อมหยุดเมื่อเจอเครื่องกั้น หมายถึง ให้ขับช้าลง และพร้อมที่จะหยุดรถเมื่อเจอเครื่องกั้นทาง
• ป้ายเตือนขับรถให้ช้าลง และสังเกตรถไฟทั้งซ้ายและขวา หมายถึง ให้ขับช้าลง และสังเกตดูรถไฟทั้งฝั่งขวา และซ้าย เพราะข้างหน้าไม่มีเครื่องกั้น
• ป้ายเตือนขับรถให้ช้าลง และระวังการลื่นไถล หมายถึง ให้ขับช้าลง และระวังการลื่นไถลจากพื้นถนนที่อาจเกิดขึ้น
• ป้ายเตือนระวังเครื่องบินกำลังบินต่ำ หมายถึง ให้ระวังเครื่องบินกำลังบินต่ำในบริเวณ จึงควรขับด้วยความระมัดระวัง
• ป้ายเตือนทางข้างหน้าเป็นทางข้ามถนน หมายถึง ทางข้างหน้าเป็นทางข้ามถนน ให้ระวังคนเดินผ่าน
• ป้ายเตือนทางข้างหน้ามีแยกวงเวียน หมายถึง ทางข้างหน้าเป็นทางแยก มีวงเวียน ควรขับด้วยความระมัดระวัง

6. ข้อสอบใบขับขี่หมวดป้ายแนะนำ

• ป้ายแนะนำห้ามแซงล้ำช่องรถประจำทาง หมายถึง ห้ามแซงล้ำช่องเดินรถประจำทาง
• ป้ายแนะนำทางบังคับให้เดินรถไปทางซ้าย หมายถึง ข้างหน้าเป็นทางบังคับให้เดินรถทางซ่ายเท่านั้น
• ป้ายแนะนำให้ขับผ่านทางซ้ายของป้าย หมายถึง ต้องขับผ่านไปทางด้านซ้ายของป้าย
• ป้ายแนะนำให้ตรงไปหรือเลี้ยวซ้าย หมายถึง ให้ตรงไป หรือเลี้ยวซ้ายเท่านั้น
• ป้ายแนะนำรถมีคนนั่งไม่น้อยกว่า 3 คน ใช้ช่องทางนี้ได้ หมายถึง รถที่มีผู้โดยสารไม่น้อยกว่า 3 คน สามารถใช้ช่องทางนี้ได้
• ป้ายแนะนำให้ซ้ายหรือชิดขวา หมายถึง ให้เดินรถชิดซ้าย หรือชิดขวาในการเดินรถ

7. ข้อสอบใบขับขี่หมวดมารยาทและจิตสำนึก

• การขับรถเข้าวงเวียนที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร จะต้องให้รถทางขวามือที่อยู่ในวงเวียนไปก่อนเสมอ
• การเลี้ยวรถบริเวณทางแยกที่มีช่องจราจรมากกว่า 2 ช่องทาง จะต้องอยู่ในช่องจราจรเดิมตั้งแต่เริ่มเข้าทางแยกจนเลี้ยวเสร็จสิ้น
• เมื่อขับผ่านซอยที่มีรถรอออกเป็นจำนวนมาก ควรเปิดทางให้รถได้สลับออกจากซอยกับทางตรงบ้าง
• ไม่ควรบีบแตรเร่งรถคันหน้าให้เคลื่อนตัว เมื่อได้รับสัญญาณไฟจราจรสีเขียว
• ควรชะลอ และหยุดรถที่เส้นขาว เพื่อป้องกันการฝ่าไฟแดง เมื่อได้รับสัญญาณไฟเหลือง
• ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารทุกคน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ทั้งตอนหน้า และตอนหลังรถ จะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งในการเดินทาง
• ผู้ขับขี่ควรให้สัญญาณไฟก่อนเร่งแซงทุกครั้ง รวมถึงเว้นระยะห่างก่อนให้สัญญาณไฟขอกลับช่องจราจรเดิม เพื่อความปลอดภัยในการเดินรถ

8. ข้อสอบใบขับขี่หมวดเทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย

• เมื่อเกิดเหตุการณ์รถเสีย ควรนำรถเข้าจอดข้างทางพร้อมกับเปิดไฟฉุกเฉิน
• เพื่อความปลอดภัยในการขับรถช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนทุกครั้ง
• หากมีกลิ่นเหม็นไหม้ขณะขับ เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น ควรนำรถจอดในที่ปลอดภัย และเรียกช่างมาตรวจเช็ก
• ขณะขับรถขึ้นทางลาดชัน ถ้าเครื่องยนต์ดับกลางอากาศ ควรเหยียบเบรก ดึงเบรกมือขึ้น เข้าเกียร์ว่าง และติดเครื่องยนต์ใหม่อีกครั้ง
• หากมีไฟสัญลักษณ์เตือนสีแดงขึ้นที่แผงหน้าปัด ควรนำรถไปตรวจเช็กโดยทันที ไม่ควรใช้รถอย่างเด็ดขาด
• ขณะขับรถในช่วงฝนตก ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินตลอดเส้นทางเพราะอาจสร้างความสับสนให้กับรถคันอื่น จนเกิดอุบัติเหตุได้

9 . ข้อสอบใบขับขี่หมวดการบำรุงรักษารถ

• น้ำที่ใช้เติมในแบตเตอรี่ควรเป็นน้ำกลั่น
• การเติมน้ำกลั่นควรเติมให้อยู่ในระหว่างขีดที่กำหนด
• แบตเตอรี่ควรมีฉนวนหุ้มที่ขั้วบริเวณขั้วบวก
• การตรวจเช็กแบตเตอรี่ว่ามีไฟหรือไม่ สามารถเช็กได้ด้วยการบีบแตรว่ามีเสียงดังเป็นปกติ หรือเบาลงไหม
• ควรดับเครื่องยนต์ และถอดขั้วแบตเตอรี่ออกทิ้งไว้ 5-10 นาที เมื่อเกิดไฟลัดวงจรขึ้น
• สาเหตุชาร์จไฟไม่เข้าแบตเตอรี่ เกิดจากไดชาร์จชำรุด หรือสายพานไดชาร์จหย่อนหรือขาด

อยากทำข้อสอบใบขับขี่ 2567 ผ่าน ควรเตรียมตัวอย่างไร

สำหรับคนที่อยากทำข้อสอบใบขับขี่ 2567 ให้ผ่านนั้นไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด เพียงหมั่นอ่านทบทวน หรือศึกษาวิธีการใช้รถใช้ถนนผ่านสื่อต่างๆ ในช่องทางออนไลน์ปัจจุบัน ก็เพียงพอจะทำให้สอบผ่านได้อย่างไม่ยาก เพราะตัวข้อสอบทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คนขับรถบนท้องถนนต้องเจอกันอยู่ทุกวันอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากในการทำความเข้าใจสักเท่าไหร่เลย

สรุปบทความ รวมข้อสอบใบขับขี่ 2567 พร้อมเฉลยแบบผ่านชัวร์

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับแนวข้อสอบใบขับขี่พร้อมเฉลยที่เรานำมาฝาก ไม่ได้ยากอย่างที่หลายคนคิดเลยใช่ไหมล่ะ เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่คนใช้รถนั้นรู้กันดีอยู่แล้ว เพียงแค่ทบทวนความจำกันสักหน่อย ก็สามารถทำข้อสอบให้ผ่านได้ไม่ยากแน่นอน

และสำหรับคนที่ใช้รถใช้ถนน ที่กำลังมีปัญหาติดขัดต้องใช้เงินก้อน แต่ไม่รู้จะหยิบยืมอย่างปลอดภัยที่ไหนดี มาขอสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน เพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่องกันดีกว่า เพราะที่นี่ให้วงเงินก้อนใหญ่ สมัครง่าย โดยไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก อีกทั้งยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery พร้อมเดินทางไปตรวจสอบสภาพรถถึงที่หน้าบ้าน และยังอนุมัติไว รับเงินก้อนได้ทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำ พร้อมทั้งผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน และยังสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม สำหรับใช้เงินฉุกเฉิน กดฟรีไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน แบบไม่ต้องมีคนค้ำ

สมัครง่าย อนุมัติไว รับเงินก้อนได้ทันที

*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี*