• Credit Card
    • Credit Card
    • Rewards Program
    • Installment Payment
    • Donation
    • Auto Payment
    • Rates and Fees
    • KTC Device Pay
  • Personal Loan
    • Loan Product
    • Installment Payment
    • Rates and Fees
  • Promotions
  • Merchant
    • Merchant Service
    • EDC Service
    • QR Code Payment
    • Online Payment Gateway
    • Auto Payment Service
    • Link Payment
    • ALIPAY & ALIPAY+
  • KTC WORLD
  • KTC U SHOP
  • Customer Service
    • Contact KTC
    • KTC MOBILE APPLICATION
    • Payment Channel
    • KTC E-Book
    • Download Manual / Form
    • FAQ
Credit Card
Credit Card
  • Credit Card
  • Forever Rewards
  • Flexi Installment
  • Donation
  • Auto Payment
  • Rates and Fees
  • KTC Device Pay
Personal Loan
Personal Loan
  • Loan Product
  • Flexi Installment
  • Rates and Fees
PromotionsPromotions
Merchant
Merchant
  • Merchant Service
  • EDC Service
  • QR Code Payment
  • Online Payment Gateway
  • Auto Payment Service
  • Link Payment
  • ALIPAY & ALIPAY+
KTC WORLDKTC WORLD KTC U SHOPKTC U SHOP
Customer Service
Customer Service
  • Contact KTC
  • KTC MOBILE APPLICATION
  • Payment Channel
  • KTC E-Book
  • Download Manual / Form
  • FAQ
เปลี่ยนภาษา

EN

TH

KTC Search Icon KTC Search Icon
Apply Card
KTC Login KTC Login Login KTC Login
KTC Profile

My Account

  • KTC Profile

    My Product

  • KTC Promotions

    My Promotions

  • KTC Logout

    Log out

KTC Profile
  1. Home
  2. /
  3. Article
  4. /
  5. Knowledge
  6. /
  7. เปลี่ยนงานดีไหม เปลี่ยนแล้วเงินเดือนควรขึ้นเท่าไหร่
  1. Home
  2. /
  3. Article
  4. /
  5. Knowledge
  6. /
  7. เปลี่ยนงานดีไหม เปลี่ยนแล้วเงินเดือนควรขึ้นเท่าไหร่
เปลี่ยนงานบ่อยดีไหม

ตอบข้อสงสัย เปลี่ยนงานบ่อยดีไหม เปิดข้อดี-ข้อเสียที่มนุษย์เงินเดือนควรรู้

Category : Knowledge

หากย้อนกลับไปเมื่อราว ๆ 20 - 30 ปีก่อน การทำงานในบริษัทเดียวตลอดชีวิตถือเป็นค่านิยมของผู้คนในสังคมยุคนั้น ทั้งยังแสดงให้เห็นความมั่นคงในหน้าที่การงานและความเติบโต แต่ปัจจุบันเทรนด์การทำงานได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง จากแนวคิด “อยู่ให้นาน” สู่การ “อยู่ให้คุ้ม” โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและการเปลี่ยนผ่านทางสังคมที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

ผู้คนในเจเนอเรชันใหม่มักมีแนวคิดว่า การเติบโต (Growth) ความสมดุลในชีวิต (Work-Life Balance) และความหมายของงาน (Purpose) สำคัญกว่าการแสดงความจงรักภักดีต่อองค์กร หากรู้สึกว่างานปัจจุบันไม่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ พนักงานบริษัทยุคใหม่ก็ไม่กลัวที่จะลาออกและเปลี่ยนงานใหม่

อย่างไรก็ตาม ยังมีมนุษย์เงินเดือนอีกจำนวนไม่น้อยที่กังวลว่า การเปลี่ยนงานบ่อยจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และประวัติการทำงาน ซึ่งอาจเป็นการตัดโอกาสตนเองในการหางานใหม่ หรือได้รับคัดเลือกเข้าทำงานในบริษัทอื่น ๆ

ความหมายของคำว่า “เปลี่ยนงานบ่อย”

คำว่า “บ่อย” อาจสื่อความแตกต่างกันไปตามความคิดของแต่ละบุคคล สำหรับบางคนอาจคิดว่า การเปลี่ยนงานทุก 6 เดือนนั้น ถือว่าบ่อย ในขณะที่บางคนอาจมองว่า การเปลี่ยนงานเพียงปีละครั้ง ถือเป็นเรื่องปกติ

อ้างอิงจากข้อมูลในรายงานของ Resume Genius เมื่อปี 2023 พบว่า มากกว่าครึ่งของ Gen Z ที่อยู่ในวัยทำงาน ยึดมั่นในความคิดที่ว่า การเปลี่ยนงานทุก 2 - 3 ปีนั้น เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในช่วงอายุ 25 - 35 ปี ซึ่งถือเป็นช่วงที่กำลังสร้างอาชีพและวางแผนเพื่ออนาคต

สำหรับมุมมองของ HR  และผู้จ้างงาน กลับตรงกันข้าม โดยองค์กรเหล่านี้จะมองว่า การมีประวัติการเปลี่ยนงานบ่อยทุก ๆ 1 - 2 ปี เปรียบเสมือนสัญญาณเตือนถึงความไม่อดทนต่อสภาวะกดดันในที่ทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อไม่มีเหตุผลการลาออกที่ชัดเจน หรือไม่สมเหตุสมผลมากเพียงพอในมุมมองของนายจ้าง แต่ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนงานบ่อยเพราะมีเหตุผลอันสมควรจะช่วยแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความปรารถนาในการเติบโตในเส้นทางอาชีพ อย่างไรก็ดี บรรทัดฐานที่ใช้พิจารณาว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสายงานและตำแหน่งงานนั้น ๆ ด้วย

ข้อดีของการเปลี่ยนงานบ่อย

ข้อดีของการเปลี่ยนงาน หรือเปลี่ยนงานบ่อยนั้น มีทั้งสิ้น 4 ประการสำคัญ ดังนี้  

โอกาสในการขึ้นเงินเดือน

หนึ่งในข้อดีที่ชัดเจนที่สุดของการเปลี่ยนงานก็คือ โอกาสในการต่อรองเพิ่มเงินเดือนจากอัตราเงินเดือนล่าสุดขององค์กรเดิม เมื่อเปลี่ยนงานใหม่ผู้สมัครงานก็จะมีโอกาสในการพูดคุยขอเงินเดือนที่สูงกว่าได้ โดยเฉพาะหากมีทักษะและประสบการณ์ที่เป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน

เก็บประสบการณ์หลากหลายและเพิ่มทักษะ

การทำงานในหลายองค์กรช่วยให้ได้เรียนรู้วิธีการทำงาน ระบบ และวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ทำให้ได้รับประสบการณ์ที่หลากหลาย เพิ่มพูนทักษะการปรับตัว ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น รวมถึงการรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าต่าง ๆ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ที่อาจไม่ได้รับในองค์กรเดิม ซึ่งอาจเป็นผลดีต่อการเปลี่ยนสายงานในอนาคตด้วย

รู้จักรูปแบบการทำงานที่หลากหลาย และค้นพบแนวทางการทำงานของตนเอง

จากเดิมที่ต้องอดทนทำงานอยู่ในองค์กรที่ไม่เหมาะกับตนเอง การเปลี่ยนงานจะช่วยให้ได้รับโอกาสในการพบเจอผู้คนใหม่ ๆ สภาพแวดล้อมการทำงาน วัฒนธรรมองค์กรที่แตกต่าง และทีมงานที่อาจทำงานเข้ากันได้มากกว่า ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพจิต และประสิทธิภาพในการทำงาน

สร้างเครือข่าย (Connection) ที่กว้างขวาง

หนึ่งสิ่งที่จะได้รับอย่างแน่นอน ในการทำงานร่วมกับหลายองค์กร คือการได้รู้จักผู้คนจากหลากหลายอุตสาหกรรมและตำแหน่งงาน เครือข่าย หรือที่หลาย ๆ คนมักเรียกกันว่า Connection ที่กว้างขวางนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาอาชีพในระยะยาว

ข้อเสียของการเปลี่ยนงานบ่อย

แม้การเปลี่ยนงานบ่อยจะมีข้อดีไม่น้อย โดยเฉพาะเป็นการช่วยเพิ่มทักษะการเรียนรู้และโอกาสในการต่อรองขึ้นเงินเดือน แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อเสียไม่น้อยเช่นกัน ดังนี้

ภาพลักษณ์ความไม่ทนงาน

ประวัติการทำงานที่มีการเปลี่ยนงานบ่อยเกินไปอาจทำให้ผู้จ้างงานมองว่า ผู้สมัครงานขาดความมั่นคงและอาจไม่ค่อยทุ่มเทกับงาน หรืออาจร้ายแรงถึงขนาดที่ว่า มีภาพลักษณ์ของความไม่อดทนในการทำงาน หรือเป็นบุคคลที่มีปัญหากับการทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะตำแหน่งที่ต้องการความต่อเนื่อง หรือการพัฒนาโปรเจกต์ระยะยาว และตำแหน่งงานที่จำเป็นต้องมีการสื่อสารพูดคุย

ไม่ได้พัฒนาความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

การเปลี่ยนงานบ่อยอาจทำให้ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะมุ่งพัฒนาทักษะอย่างเจาะลึก ๆ ในสาขาใดสาขาหนึ่ง  เพราะการเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จำเป็นต้องใช้เวลาและการสั่งสมประสบการณ์ ซึ่งการเปลี่ยนงานบ่อยจะเป็นอุปสรรคต่อการจดจ่อเรียนรู้

เสียโอกาสเติบโตในองค์กรเดิม

การอยู่กับองค์กรเดิมในระยะยาวมีข้อดีในเรื่องของการสร้างความเชื่อใจ และพิสูจน์ตนเองเพื่อเพิ่มโอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง รวมถึงโบนัสและสวัสดิการที่เพิ่มขึ้นตามอายุงาน ซึ่งแน่นอนว่าการเปลี่ยนงานบ่อยจะทำให้เสียโอกาสเหล่านี้ไป

บริษัทบางแห่งอาจมองว่าเสี่ยง

ผู้จ้างงานบางรายอาจไม่เรียกสัมภาษณ์งานเสียด้วยซ้ำ เมื่อได้อ่านประวัติการทำงานที่เผยให้เห็นระยะเวลาในการทำงานร่วมกับองค์กรที่ผ่าน ๆ มา เพราะสิ่งนี้อาจสื่อให้เห็นแนวโน้มว่าผู้สมัครงานรายนี้อาจจะทำงานได้ไม่นาน และสุดท้ายก็ต้องย้อนกลับไปสู่กระบวนการคัดเลือกพนักงานใหม่ ซึ่งจะเสียทั้งเวลา และต้นทุนในการอบรมสอนงาน

เปลี่ยนงาน ควรเรียกเงินเดือนเท่าไหร่ มีหลักการอะไรบ้าง

การเปลี่ยนงานเป็นโอกาสสำคัญที่จะปรับเงินเดือนให้เหมาะสมกับทักษะและประสบการณ์ของคุณ แต่ทั้งนี้ การเรียกเงินเดือนควรเป็นไปตามแนวทางที่สมเหตุสมผล และผ่านการคิดไตร่ตรองมาอย่างรอบคอบ โดยปกติ การต่อรองเรียกเงินเดือนเมื่อเปลี่ยนงานใหม่มักอยู่ที่ประมาณ 10 - 30% ของเงินเดือนล่าสุด

1. พิจารณาจากรายได้ปัจจุบันและอัตราการปรับเงินเดือน

เริ่มต้นด้วยการประเมินฐานเงินเดือนในสายงานที่คุณทำ โดยลองพิจารณาอัตราเงินเดือนบนเว็บไซต์สมัครงานต่าง ๆ ว่าปกติแล้วอยู่ที่อัตราประมาณเท่าไหร่ จากนั้นพิจารณาประกอบกับเงินเดือนปัจจุบันของตนเองว่าอยู่ในฐานเงินเดือนดังกล่าวนี้แล้วหรือไม่

หากอยู่ในฐานเงินเดือน ปกติการเปลี่ยนงานใหม่มักได้ปรับเงินเดือนขึ้นประมาณ 10 - 30% ของเงินเดือนเดิม ทั้งนี้ การเรียกเงินเดือนใหม่ไม่ได้มีสูตรการคำนวณตายตัว แม้จะเรียกเงินเดือนสูง แต่หากคุณมีประสบการณ์ ในงาน ๆ นั้น หรือมีความเชี่ยวชาญทักษะเฉพาะด้าน คุณเองก็สามารถเอาจุดแข็งดังกล่าวนี้มาใช้ต่อรองเงินเดือนที่สูงกว่าราคาตลาดได้เช่นกัน

2. สวัสดิการต่าง ๆ ของบริษัทใหม่

นอกจากเงินเดือนแล้วนั้น สวัสดิการและค่าตอบแทนอื่น ๆ ก็เป็นปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาร่วมด้วย อาทิ ในบางบริษัทอาจมีการทำงานที่ยืดหยุ่น ทำงานแบบ Work from home หรือทำงานแบบ Hybrid เข้าออฟฟิศเพียง 2 - 3 วัน สามารถเบิกค่าเดินทาง และค่าอินเทอร์เน็ตได้ หรือมีอาหารกลางวันให้รับประทานฟรี รวมถึงสามารถเบิกค่า Training อบรมต่าง ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองได้อีกด้วย 

ทั้งหมดนั้นนับเป็นสวัสดิการที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายบางส่วนได้ จึงควรนำมาประกอบการพิจารณาเปลี่ยนงานใหม่เช่นกัน

3. ประเมินคุณค่าของตัวเอง ลักษณะงานใหม่และความท้าทายที่ต้องทำ

สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานมาหลายปีแล้ว การวิเคราะห์ทักษะ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญที่คุณสามารถนำมาช่วยพัฒนาบริษัทใหม่ได้ นับเป็นสิ่งที่คุณต้องนำมาประเมินเช่นกัน โดยหากคุณมีความสามารถเฉพาะด้านที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน คุณก็สามารถเรียกเงินเดือนที่มากกว่า 30% ได้

นอกจากนี้ คุณควรพิจารณาภาระหน้าที่ในงานใหม่ที่คุณต้องรับผิดชอบด้วย เพราะเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นย่อมตามมาด้วยภาระงานที่มากขึ้นและยากขึ้น ฉะนั้นอย่าลืมพิจารณาและสอบถามถึงขอบเขตงานให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะเรียกเงินเดือนหรือตกลงเซ็นสัญญา เพราะรายละเอียดเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่คุณต้องนำมาประเมินถึงความคุ้มค่ากับเงินเดือนที่จะเสนอไปด้วย

ในทางกลับกัน หากคุณมองว่าความท้าทายหรือความยากในการทำงานเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ทำให้คุณเติบโตในสายงาน หรือเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ โดยไม่ได้พิจารณาเป็นตัวเงิน ก็ย่อมได้เช่นกัน

A person typing on a computer AI-generated content may be incorrect., รูปภาพ

สมัครงานใหม่

วิธีประเมินงานใหม่ ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนงาน

  • ศึกษาข้อมูลบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความมั่นคง วัฒนธรรมองค์กร โครงสร้างทีม และโอกาสเติบโตในระยะยาว
  • เปรียบเทียบเงินเดือนและสวัสดิการ โดยคำนวณรายได้ใหม่ เปรียบเทียบกับงานปัจจุบัน อย่างที่กล่าวไปว่าปกติการย้ายงานใหม่มักได้ปรับขึ้นประมาณ 10 - 30% ของเงินเดือนเดิม แต่ทั้งนี้ ก็ควรพิจารณาสวัสดิการส่วนอื่น ๆ ประกอบร่วมกันด้วย
  • ตรวจสอบรายละเอียดตำแหน่งงาน เป็นต้นว่า หากตำแหน่งที่ย้ายไปเป็นตำแหน่งเดิม ก็ควรพิจารณาดูว่าทำไมบริษัทใหม่ถึงเปิดรับสมัครตำแหน่งงานนี้ และเหตุใดคนเก่าถึงลาออก หรือหากเป็นตำแหน่งใหม่ที่บริษัทนั้นกำลังขยายทีม ก็ควรดูรายละเอียดว่าตำแหน่งนี้ทำงานด้านไหน ต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง รวมไปถึงหัวหน้างานเป็นอย่างไร เข้ากับเราได้มากน้อยแค่ไหน มีวิธีการทำงานอย่างไร เป็นต้น
  • พิจารณาโอกาสเติบโตในสายอาชีพ เช่น ประเมินว่าตำแหน่งใหม่สอดคล้องกับเป้าหมายในสายงานของเรา และช่วยพัฒนาทักษะของเราได้หรือไม่ องค์กรนั้นสร้างโอกาสในการเติบโตให้มากน้อยแค่ไหน
  • ประเมินวัฒนธรรมและคุณค่าขององค์กรใหม่ ว่าบริษัทหรือองค์กรที่เราจะย้ายไปให้โอกาสการเรียนรู้มากน้อยแค่ไหน ใช้เทคโนโลยีในการทำงานอะไรบ้าง และมีความท้าทายใหม่ ๆ อะไรที่จะเพิ่มพูนศักยภาพของเราอย่างไร

“เปลี่ยนงาน” อย่างไร ให้ดูเป็นมืออาชีพ ไม่ใช่การหนีปัญหา

วิธีการเปลี่ยนงานอย่างเป็นมืออาชีพก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อไม่ให้ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ผิด ๆ ที่ส่งผลกระทบทางลบต่อโอกาสในการได้รับคัดเลือกเข้าทำงาน โดยเคล็ดลับแบบฉบับมืออาชีพ มีดังนี้ 

ระบุเหตุผลการเปลี่ยนงานอย่างชัดเจน

ในเรซูเม่หรือในระหว่างการสัมภาษณ์งาน ควรเตรียมคำอธิบายที่มีเหตุมีผลเพื่อตอบคำถามถึงสาเหตุการเปลี่ยนงานแต่ละครั้ง เช่น ความต้องการในการแสวงหาความท้าทายใหม่ ๆ ความต้องการพัฒนาทักษะเฉพาะด้าน หรือการเติบโตในสายอาชีพ สิ่งสำคัญคือควรหลีกเลี่ยงการบ่น หรือพูดในแง่ลบเกี่ยวกับองค์กรเดิม

ทำงานในแต่ละองค์กรอย่างน้อย 1 ปี

หากเป็นไปได้ ควรพยายามทำงานในแต่ละตำแหน่งนั้น ๆ อย่างน้อย 1 ปี เพื่อแสดงให้เห็นว่าสามารถปรับตัวและสร้างผลงานที่มีประสิทธิภาพได้ ยกเว้นกรณีที่มีเหตุผลจำเป็นที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จริง ๆ

เน้นผลลัพธ์มากกว่าระยะเวลา

ในเรซูเม่ (resume) ควรเน้นที่การนำเสนอผลงานและความสำเร็จที่ได้รับจากการทำงานในตำแหน่งนั้น ๆ  มากกว่าการกล่าวรวม ๆ ถึงระยะเวลาทำงาน โดยไร้ผลงานที่มีประสิทธิภาพ การนำเสนอผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจะช่วยให้ผู้จ้างงานเห็นคุณค่าในทักษะความสามารถของคุณ

เปลี่ยนเพื่อเติบโต ไม่ใช่เพื่อหนี

การเปลี่ยนงานควรมาจากความต้องการเติบโตและมองหาโอกาสใหม่ ไม่ใช่เพียงแค่หนีจากปัญหาหรือความยากลำบากในงานปัจจุบัน แนวคิดนี้จะสะท้อนให้เห็นในการสัมภาษณ์และการเล่าเรื่องราวอาชีพของคุณ

ก่อนเปลี่ยนงาน ต้องวางแผนอะไรบ้าง

สำหรับสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนเปลี่ยนงาน มีดังนี้

เก็บออมเงินสำรอง 3 - 6 เดือน

การมีเงินสำรองที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเปลี่ยนงาน เพื่อให้มีเวลาหางานใหม่โดยไม่ต้องรีบร้อนหรือตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องยอมรับข้อเสนอและเงินเสนอที่ไม่สมเหตุสมผล โดยเงินสำรองที่เก็บออมไว้ควรครอบคลุมค่าใช้จ่ายพื้นฐานได้นาน 3 - 6 เดือน

เตรียมเรซูเม่ และ Portfolio ให้พร้อม

อัปเดตเรซูเม่ให้มีความทันสมัย และอัพเดทข้อมูลเป็นปัจจุบัน รวมถึงควรเตรียมพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio) หรือหลักฐานผลงานที่จะช่วยสนับสนุนการสมัครงาน เพราะการมีโปรไฟล์ที่ดีจะเพิ่มโอกาสในการได้รับการติดต่อจากนายจ้าง และผ่านการคัดเลือก

วางแผนการเงินระหว่างเปลี่ยนงาน

อีกหนึ่งสำคัญคือ การพิจารณาหารายได้ทางอื่น ๆ ในระหว่างช่วงเปลี่ยนงาน เช่น การรับงานฟรีแลนซ์ การขายของออนไลน์ หรือการลงทุนที่สร้างรายได้เสริม นอกจากนี้ควรทบทวนภาระผูกพันทางการเงิน เช่น สินเชื่อ ค่าเช่า และค่าใช้จ่ายประจำอื่น ๆ

การเตรียมความพร้อมด้านการเงินเพิ่มเติม

หากคุณกำลังวางแผนเปลี่ยนงาน การมีเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยสนับสนุนในช่วงเปลี่ยนผ่านก็เป็นสิ่งสำคัญ การมีบัตรเครดิตที่มอบสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมหลากหลายประเภทการใช้จ่าย อาทิ บัตรเครดิต KTC ที่ให้สิทธิพิเศษในหมวดร้านอาหาร ช้อปปิ้ง หรือใช้จ่ายสำหรับคอร์สเรียนต่าง ๆ เพื่อพัฒนาทักษะ และส่งเสริมการเรียนรู้ จะช่วยให้การใช้จ่ายในช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนงานใหม่ดำเนินไปได้อย่างคล่องตัวและเกิดประโยชน์สูงสุด

ทั้งนี้ การเปลี่ยนงานบ่อยไม่ใช่เรื่องดีหรือเสียโดยสิ้นเชิง แต่ขึ้นอยู่กับการวางแผนและเป้าหมายของแต่ละบุคคล หากทำอย่างมีเป้าหมายและมีเหตุผล การเปลี่ยนงานสามารถเป็นเครื่องมือที่ดีในการพัฒนาอาชีพ เพิ่มรายได้ และแสวงหาความสุขในการทำงานได้ สิ่งสำคัญคือการเตรียมตัวให้พร้อมทั้งในด้านทักษะ การเงิน และจิตใจ เพื่อให้การเปลี่ยนงานเป็นก้าวที่ก้าวไปข้างหน้า ไม่ใช่การถอยหลัง การตัดสินใจเปลี่ยนงานแต่ละครั้งควรสอดคล้องกับเป้าหมายในระยะยาวของคุณ

สำหรับผู้ที่ต้องการเตรียมตัวสมัครงานใหม่ ต้องการซื้อเสื้อผ้าสัมภาษณ์งาน หรือเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ การใช้จ่ายผ่าน บัตรเครดิต KTC เป็นตัวช่วยทางการเงินที่ดีอย่างยิ่ง ด้วยสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทุก ๆ 25 บาท จะได้รับคะแนน KTC FOREVER 1 คะแนน และโปรโมชั่นผ่อน 0% สำหรับการใช้จ่ายสำคัญ เพื่อให้คุณพร้อมรับมือกับการเริ่มต้นใหม่อย่างมั่นใจและไร้กังวล

ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC

Apply Online Service

KTC Credit cards and KTC PROUD

QR Code สมัครออนไลน์ด้วยตนเอง
Scan QR Code
to apply online service
Learn more

Apply Online Service

KTC Credit cards
and KTC PROUD

Apply Now Learn more

Add your contact details
for call back service.

Get advice and help with applying KTC products.

บัตรเครดิต KTC KTC Credit Card สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH KTC CASH KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC P BERM
Car for Cash (Big bike)
บัตรกดเงินสด KTC PROUD KTC PROUD สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม KTC P BERM
Car for Cash (Car)
KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์ KTC P BERM
Car for Cash
(Motorcycle)
บัตรเครดิต KTC KTC Credit Card บัตรกดเงินสด KTC PROUD KTC PROUD สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH KTC CASH สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม KTC P BERM
Car for Cash (Car)
KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC P BERM
Car for Cash (Big bike)
KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์ KTC P BERM
Car for Cash
(Motorcycle)

About KTC

  • Vision / Mission
  • General Information
  • Group’s Shareholding
  • Organization Structure
  • Board of Directors
  • Executives
  • Company Secretary
  • Compliance and Internal Audit
  • Financial Controller
  • Data Protection Notice
  • Cookies Notice
  • PR News
  • Article
  • Career / Internship

Customer Services

  • Online Services
  • Rates and Fees
  • Interest / Fee Calculator
  • Payment Channels
  • KTC Auto Payment
  • Download
  • Announcement
  • FAQ
  • Site Map

Sustainability Development

  • Economic Dimension
  • Social Dimension
  • Environmental Dimension
  • Internal Control
    and Risk Management
  • Information Security Management System (ISO/IEC 27001:2013) Certification

Investor Relations

  • Financial Hightlight
  • Publications and Webcast
  • Shareholder
  • Bondholder
  • Policy
  • IR Contact

KTC PHONE

02 123 5000
CAC Certified

Download App

KTC Mobile
KTC Mobile KTC Mobile KTC Mobile
ติดตามข่าวสารได้ที่
KTC LINE KTC LINE KTC Facebook KTC Facebook KTC instagram KTC instagram KTC Youtube KTC Youtube KTC TikTok KTC TikTok KTC twitter KTC twitter
© 2020 Krungthai Card PCL.
Follow us on
KTC LINE KTC LINE KTC Facebook KTC Facebook KTC instagram KTC instagram KTC Youtube KTC Youtube KTC TikTok KTC TikTok KTC twitter KTC twitter

EN

TH

KTC LIVE CHAT

Live Chat

KTC LIVE CHAT
สมัครบัตรเครดิต KTC
สมัครกดเงินสด KTC PROUD
All
Promotion
Credit card
Article
News
0 Result
คุณกำลังหมายถึง?
    See more

    Not found

    Check your search keywords and try again.
    Try searching with fewer keywords.
    History Search
    History empty
    Clear all
    KTC
    Filter promotion
    All category
    • Select all
    • Clear all
    All brand
    • Select all
    • Clear all
    Choose Product

    KTC Credit Card

    KTC PROUD

    KTC CASH

    สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ <span>KTC พี่เบิ้ม</span>

    KTC P BERM

    Filter

    ตัวกรอง

    Search
    www.ktc.co.th ไม่รองรับเบราว์เซอร์ Internet Explorer
    หากดำเนินการต่อ การใช้งานในบางเมนู/รายการอาจไม่สมบูรณ์

    © 2019 Krungthai Card PCL.

    EN

    TH

    Live Chat