• Credit Card
    • Credit Card
    • Rewards Program
    • Installment Payment
    • Donation
    • Auto Payment
    • Rates and Fees
    • KTC Device Pay
  • Personal Loan
    • Loan Product
    • Installment Payment
    • Rates and Fees
  • Promotions
  • Merchant
    • Merchant Service
    • EDC Service
    • QR Code Payment
    • Online Payment Gateway
    • Auto Payment Service
    • Link Payment
    • ALIPAY & ALIPAY+
  • KTC WORLD
  • KTC U SHOP
  • Customer Service
    • Contact KTC
    • KTC MOBILE APPLICATION
    • Payment Channel
    • KTC E-Book
    • Download Manual / Form
    • FAQ
Credit Card
Credit Card
  • Credit Card
  • Forever Rewards
  • Flexi Installment
  • Donation
  • Auto Payment
  • Rates and Fees
  • KTC Device Pay
Personal Loan
Personal Loan
  • Loan Product
  • Flexi Installment
  • Rates and Fees
PromotionsPromotions
Merchant
Merchant
  • Merchant Service
  • EDC Service
  • QR Code Payment
  • Online Payment Gateway
  • Auto Payment Service
  • Link Payment
  • ALIPAY & ALIPAY+
KTC WORLDKTC WORLD KTC U SHOPKTC U SHOP
Customer Service
Customer Service
  • Contact KTC
  • KTC MOBILE APPLICATION
  • Payment Channel
  • KTC E-Book
  • Download Manual / Form
  • FAQ
เปลี่ยนภาษา

EN

TH

KTC Search Icon KTC Search Icon
Apply Card
KTC Login KTC Login Login KTC Login
KTC Profile

My Account

  • KTC Profile

    My Product

  • KTC Promotions

    My Promotions

  • KTC Logout

    Log out

KTC Profile
  1. Home
  2. /
  3. Article
  4. /
  5. Knowledge
  6. /
  7. Agile คืออะไร มีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง เริ่มใช้งานอย่างไรให้สำเร็จ ?
  1. Home
  2. /
  3. Article
  4. /
  5. Knowledge
  6. /
  7. Agile คืออะไร มีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง เริ่มใช้งานอย่างไรให้สำเร็จ ?
Agile

Agile คืออะไร มีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง เริ่มใช้งานอย่างไรให้สำเร็จ ?

Category : Knowledge

โลกการทำธุรกิจเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ องค์กรที่ปรับตัวได้ไวเท่านั้นจึงจะอยู่รอด ซึ่ง Agile (อไจล์) คือหนึ่งในแนวทางที่หลายบริษัทเลือกใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดความล่าช้า และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ว่าแต่การทำงานแบบ Agile คืออะไรกันแน่ หัวใจของ Agile คืออะไร มีข้อดี - ข้อเสียอย่างไรบ้าง แล้วจะใช้งาน Agile ให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวคิดนี้อย่างลึกซึ้ง พร้อมแนะแนวทางการนำไปปรับใช้ได้จริง

Agile Methodology คืออะไร ?

Agile Methodology เป็นแนวทางการทำงานที่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น รวดเร็ว และสามารถปรับเปลี่ยนแผนได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์มากกว่าขั้นตอน การทำงานร่วมกันเป็นทีมอย่างใกล้ชิด การสื่อสารระหว่างทีม และการแบ่งงานเป็นรอบสั้นๆ (Sprint) เพื่อให้ทีมสามารถทดสอบ ปรับปรุง และพัฒนาต่อได้อย่างรวดเร็ว แทนที่จะพัฒนางานให้เสร็จทั้งหมดและส่งมอบทีเดียว

Agile มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง ?

ข้อดีของ Agile

  • มีความยืดหยุ่นสูง : Agile เป็นรูปแบบการทำงานที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการทันที ทำให้สามารถตอบสนองต่อปัญหาที่เกิดขึ้นและโอกาสใหม่ๆ ที่เข้ามาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การสื่อสารภายในทีมดีขึ้น : Agile เน้นการประชุมสั้นๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น Daily Scrum ทำให้สมาชิกในทีมรับรู้ความคืบหน้า ปัญหา และสามารถช่วยกันแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
  • กระตุ้นการทำงานเป็นทีมและความรับผิดชอบร่วมกัน : Agile จะให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นกลุ่มมากกว่าการพึ่งพาผู้บริหารหรือหัวหน้าทีมเพียงคนเดียว ทีมจะมีอิสระในการตัดสินใจและรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ของงานร่วมกัน
  • ลดปัญหาการทำงานแบบแยกส่วน : Agile ช่วยให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันข้ามแผนกได้ ลดการแบ่งแยกระหว่างฝ่ายต่างๆ และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความร่วมมือ
  • กระตุ้นให้ทีมพัฒนาและเรียนรู้ตลอดเวลา : การทำงานเป็นรอบๆ (Iterations) และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ทีมเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและพัฒนาแนวทางการทำงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
  • ช่วยลดภาระงานของผู้บริหารได้ : การทำงานแบบ Agile มีส่วนช่วยลดภาระงานผู้บริหารได้ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมหรือติดตามงาน เพราะทีมสามารถตัดสินใจและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ทำให้ผู้บริหารสามารถโฟกัสกับการวางแผนและกลยุทธ์ระดับสูงได้มากขึ้น
  • ได้ผลลัพธ์รวดเร็ว : การทำงานในรูปแบบ Agile จะมีการส่งมอบงานเป็นระยะๆ ทำให้ทีมสามารถเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็ว สามารถปรับปรุงตาม Feedback ที่ได้รับได้ทันที
  • ได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ : เนื่องจาก Agile เป็นการเปิดโอกาสให้ทีมมีอิสระในการทำงานและการตัดสินใจ ส่งผลให้สมาชิกในทีมสามารถแสดงศักยภาพของตนเองได้เต็มที่ และมีส่วนร่วมในการพัฒนางานได้มากขึ้น
  • มีความโปร่งใสในการทำงาน : เนื่องจากรูปแบบการทำงานของ Agile ที่มีการอัพเดทความคืบหน้าของงานในทุกๆ วัน ทำให้ทุกคนในทีมสามารถติดตามสถานะของงานแต่ละส่วนได้ และเข้าใจถึงการทำงานของกันและกันได้ดีขึ้น

ข้อเสียของAgile

  • ไม่เหมาะกับโปรเจกต์ที่มีความเข้มงวดสูง : หากเป็นโครงการที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือขั้นตอนที่เคร่งครัด เช่น โครงการเกี่ยวกับกฎหมาย การเงิน หรืออุตสาหกรรมที่ต้องมีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด Agile อาจไม่เหมาะสม เพราะการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดที่ส่งผลกระทบต่อโครงการได้
  • อาจเกิดความสับสนหากไม่มีโครงสร้างที่ดี : เนื่องจาก Agile ไม่ได้มีแผนการทำงานแบบละเอียดล่วงหน้า หากทีมไม่มีแนวทางที่ชัดเจน อาจทำให้เกิดความสับสนหรือการตัดสินใจที่ขัดแย้งกัน
  • พนักงานอาจไม่ให้ความร่วมมือ : ต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมและการสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ หากพนักงานบางคนไม่เปิดรับแนวคิด Agile หรือไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง อาจทำให้การทำงานสะดุดและเกิดความขัดแย้งภายในทีม
  • ไม่เหมาะกับโครงสร้างองค์กรที่ไม่ยืดหยุ่น : องค์กรที่มีโครงสร้างการบริหารแบบลำดับขั้นที่ชัดเจน เวลาจะตัดใจอะไรต้องผ่านหลายระดับ อาจทำให้ Agile ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะ Agile ต้องการการตัดสินใจที่รวดเร็วและมีความยืดหยุ่นสูง
  • อาจทำให้เกิดการประชุมที่มากเกินไป : แม้ว่าการประชุมสั้นๆ จะช่วยให้ทีมรับรู้ความคืบหน้าในการทำงานแต่ละโปรเจกต์ แต่หากไม่มีการบริหารเวลาที่ดี อาจทำให้ทีมต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการประชุมจนไม่มีเวลาทำงานจริง
  • ขาดความแน่นอนในเป้าหมายระยะยาว : Agile เน้นการปรับตัวตามสถานการณ์ ซึ่งอาจทำให้บางโครงการไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น และทำให้สมาชิกในทีมรู้สึกไม่มั่นคงได้
  • เสี่ยงต่อความเหนื่อยล้าของทีม : แม้ว่า Agile จะกระตุ้นให้ทีมทำงานอย่างต่อเนื่องและมีการปรับปรุงผลงานอยู่ตลอดเวลา แต่หากไม่มีการบริหารจัดการภาระงานที่ดี อาจทำให้เกิดความเครียดและความเหนื่อยล้าได้

การทํางานแบบ agile คืออะไร

รูปแบบการทำงานแบบ Agile ที่ได้รับความนิยม คือ การแบ่งการทำงานเป็นช่วงสั้นๆ เรียกว่า "Sprint"

แนวคิดการทำงาน (Agile Methodology) เป็นอย่างไร ?

1. ทำงานแบบ Cross-functional Teams

หนึ่งในหลักการสำคัญของ Agile คือการทำงานในรูปแบบของ Cross-functional Team ซึ่งเป็นการรวบรวมบุคลากรที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญจากหลากหลายสายงาน มาทำงานร่วมกันในทีมเดียวกัน โดยแต่ละคนจะมีบทบาทและความรับผิดชอบที่ชัดเจน ซึ่งการทำงานในลักษณะนี้จะทำให้ทีมสามารถทำความเข้าใจรายละเอียดของงานได้ดียิ่งขึ้นและมีความยืดหยุ่นในการประสานงานกับทีมอื่นๆ ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สำคัญความหลากหลายของทักษะภายในทีม จะช่วยให้การตัดสินใจและการแก้ไขปัญหาสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด

2. มีอำนาจในการกำหนดทิศทางและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว

ทีมมีอำนาจในการตัดสินใจได้อย่างเต็มที่ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการอนุมัติที่ซับซ้อน ซึ่งการทำงานในลักษณะนี้จะช่วยให้การดำเนินโครงการต่างๆ สามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วและไม่สะดุด โดยเฉพาะ Product Owner ซึ่งจะได้รับอำนาจในการกำหนดทิศทางและตัดสินใจในเรื่องสำคัญ เพื่อให้กระบวนการพัฒนาไม่ถูกขัดขวางจากขั้นตอนที่ช้าและยุ่งยากนั่นเอง

3. ใช้บุคลากรที่รับผิดชอบโครงการโดยเฉพาะ

Agile ส่งเสริมให้ทีมทำงานโดยใช้บุคลากรที่รับผิดชอบโครงการโดยเฉพาะ หรือที่เรียกว่า Dedicated Resources โดยมีการแต่งตั้งสมาชิกที่มีความชำนาญในแต่ละด้าน เพื่อมุ่งเน้นในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งการทำงานในลักษณะนี้จะช่วยให้ทุกคนสามารถโฟกัสไปที่ Scope of Work และบรรลุผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในแต่ละขั้นตอนของโครงการ

4. แบ่งงานเป็น Sprint

การดำเนินงานจะแบ่งออกเป็นงานเล็กๆ หรือกรอบระยะเวลาสั้นๆ ที่เรียกว่า Sprint ซึ่งช่วยให้ทีมสามารถกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในแต่ละช่วงเวลาได้ หลังจากที่แต่ละ Sprint เสร็จสิ้น ทีมจะทำการประเมินผลความสำเร็จและความท้าทายที่เกิดขึ้น หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดที่สามารถพัฒนาได้ ก็จะมีการปรับปรุงกระบวนการให้ดีขึ้นใน Sprint ต่อไป ซึ่งช่วยให้การทำงานมีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้อย่างต่อเนื่อง

5. ทราบความคืบหน้าจากการสื่อสารที่ชัดเจน

การทำงานแบบ Agile จะเน้นความโปร่งใสในการดำเนินงานและสามารถรับรู้สถานะของงาน ได้อย่างชัดเจน เพราะทุกคนในทีมจะต้องสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการรายงานความคืบหน้าของงานให้ทุกคนในทีมได้ทราบ การรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดความชัดเจนในการประเมินผลและการตัดสินใจในทิศทางที่เหมาะสมกับสถานการณ์

6. การเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

Agile ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ที่รวดเร็ว โดยเฉพาะการเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและข้อดีจากการทำงานในแต่ละ Sprint ซึ่งการทำงานในลักษณะนี้จะทำให้ทีมสามารถปรับปรุงตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง ทีมสามารถตรวจสอบข้อบกพร่องและจุดที่ทำได้ดีในทุกๆ รอบ Sprint ทำให้เกิดการพัฒนางาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

Agile มีหลักการอะไรบ้าง ?

Agile ไม่ใช่แค่กระบวนการทำงาน แต่เป็นแนวคิดที่ช่วยให้ทีมพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ยืดหยุ่น และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่ง Agile Principles มีทั้งหมด 12 หลักการ ดังต่อไปนี้

  1. การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า (Satisfy the Customer)
    ลูกค้าควรได้รับความพึงพอใจอย่างต่อเนื่องจากการส่งมอบงานที่ตรงตามความต้องการตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ
  2. การยอมรับความเปลี่ยนแปลง (Welcome Change)
    การเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งการยอมรับความเปลี่ยนแปลงจะช่วยให้เราสามารถปรับตัว และนำการเปลี่ยนแปลงมาสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้
  3. การส่งมอบงานอย่างสม่ำเสมอ (Deliver Frequently)
    ควรส่งมอบงานหรือผลิตภัณฑ์ที่พร้อมใช้งานได้อย่างสม่ำเสมอ และทำให้ระยะเวลาระหว่างการส่งมอบนั้นสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์เร็วขึ้น
  4. การทำงานร่วมกัน (Work Together)
    การประสานงานระหว่างทีมงานทุกฝ่าย เช่น ฝ่ายขายและการผลิต จะช่วยให้การวางแผนงานและการดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
  5. การเชื่อใจและสนับสนุนซึ่งกันและกัน (Trust & Support)
    ทีมงานควรได้รับการสนับสนุนที่ดีและสร้างสภาวะแวดล้อมที่มีความไว้วางใจ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางที่ดี
  6. การมีปฏิสัมพันธ์แบบคุยกันซึ่งๆ หน้า (Face to Face Conversation)
    การสื่อสารต่อหน้าแบบตรงไปตรงมาจ ะช่วยให้การถ่ายทอดข้อมูลและการตัดสินใจเรื่องใดๆ ก็ตามทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  7. ความคืบหน้าจะวัดผลจากงานใช้งานได้จริง (Working Software)
    ความก้าวหน้าของโครงการควรวัดจากซอฟต์แวร์หรือผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้จริง ไม่ใช่เอกสารหรือรายงาน
  8. พัฒนางานด้วยความคงที่ (Sustainable Development)
    ควรรักษาความเร็วในการทำงานให้สม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องโดยทีมงานจะไม่เกิดความเครียดสะสมด้วย
  9. พัฒนาความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง (Continuous Attention)
    ปรับปรุงคุณภาพของงานและกระบวนการทำงานอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเป็นเลิศของงาน
  10. ทำสิ่งที่สำคัญและกล้าละสิ่งที่ไม่สำคัญ (Maintain Simplicity)
    การทำงานควรมีความเรียบง่าย โดยเน้นที่สิ่งที่สำคัญและกล้าปฏิเสธสิ่งที่ไม่จำเป็น
  11. การให้อำนาจทีมงานในการตัดสินใจ (Self-Organizing Teams)
    ทีมที่สามารถบริหารจัดการตัวเองได้ มีแนวโน้มที่จะส่งมอบผลงานที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าได้
  12. การร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง (Reflect & Adjust)
    ทีมต้องปรับปรุงและพัฒนาวิธีการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

ประยุกต์ใช้ Agile กับการทำงานอย่างไร ?

หลายคนอาจคิดว่า Agile ใช้ได้เฉพาะกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่จริงๆ แล้วสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

  • การตลาด : วางแผนแคมเปญเป็นรอบๆ ทดสอบผลลัพธ์ และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมลูกค้า
  • การบริหารโครงการ : แบ่งโครงการออกเป็นส่วนเล็กๆ (Incremental) เพื่อทำให้จัดการง่ายขึ้นและลดความเสี่ยงของงานล่าช้า
  • งานบริการลูกค้า : ปรับปรุงขั้นตอนการทำงานให้มีความยืดหยุ่น ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องและปัญหาของลูกค้าให้รวดเร็วขึ้น

โดยอาจเริ่มต้นใช้งาน Agile ได้ดังนี้

  • เลือก Framework ที่เหมาะสม : Agile มีหลายแนวทางให้เลือกใช้งานตามประเภทงาน เช่น Scrum เหมาะกับทีมที่ทำงานเป็นรอบ Sprint และต้องมีการทบทวนงานเป็นระยะ, Kanban ใช้บอร์ดติดตามงานให้เห็นภาพรวมชัดเจนและลดงานที่ค้างคา, Lean ใช้ตัดกระบวนการที่ไม่จำเป็นออก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
  • กำหนดบทบาทหน้าที่ให้ชัดเจน : เช่น มี Product Owner เพื่อจัดการและกำหนดทิศทางของผลิตภัณฑ์, มี Scrum Master เพื่อคุมกระบวนการทำงาน
  • ใช้เครื่องมือช่วยจัดการงาน : เครื่องมือดิจิทัลจะช่วยให้ทีมสามารถติดตามงานได้ง่ายขึ้น เช่น Trello หรือ ClickUp ใช้สำหรับบริหาร Task และติดตามความคืบหน้า เพื่อลดการสื่อสารที่ผิดพลาด
  • ทำงานเป็นรอบสั้นๆ (Sprint) : อาจกำหนดรอบ Sprint เช่น ทุก 2 สัปดาห์ เพื่อให้ทีมได้ทดสอบและปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่อง
  • วัดผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง : หลังจากแต่ละรอบงาน ควรมีจัดประชุมรีวิว (Retrospective) เป็นประจำ เพื่อวิเคราะห์สิ่งที่ทำได้ดีและสิ่งที่ต้องปรับปรุง

อยากสร้างองค์กรที่เอื้อกับการทำงานแบบ Agile ทำอย่างไร ต้องปลูกฝัง Mindset แบบไหน ?

การทำงานแบบ Agile ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กระบวนการหรือเครื่องมือ แต่ต้องเริ่มต้นจากวัฒนธรรมองค์กรและแนวคิดที่เปิดรับการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ทีมสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัวและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

  • สร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลง

องค์กรที่ต้องการทำงานแบบ Agile ให้ประสบความสำเร็จต้องเริ่มต้นจากการสร้างวัฒนธรรมที่เปิดกว้างต่อการเปลี่ยนแปลง เปิดโอกาสให้พนักงานได้ทดลองแนวทางใหม่ๆ และเรียนรู้จากความล้มเหลว โดยไม่มองว่าความผิดพลาดเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง แต่เป็นโอกาสในการพัฒนา โดยทีมที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ให้คุณค่ากับการเรียนรู้และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จะสามารถปรับปรุงกระบวนการทำงานได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การกระจายอำนาจในการตัดสินใจให้ทีมมีอิสระในการคิดและลงมือทำ จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น

  • ให้ความสำคัญกับการสื่อสารและความร่วมมือภายในทีม

Agile ไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากขาดการสื่อสารที่ดี ทีมควรมีการพูดคุยและอัพเดทความคืบหน้าเป็นประจำผ่านการประชุมแบบสั้นและกระชับ เช่น การจัดประชุม Daily Scrum ที่ช่วยให้ทุกคนเข้าใจสถานะของงาน ลดปัญหาความเข้าใจผิด และสามารถแก้ปัญหาได้รวดเร็ว นอกจากนี้ การสร้างวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้พนักงานแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา จะช่วยให้เกิดการพัฒนาและแก้ไขข้อผิดพลาดได้รวดเร็วขึ้น องค์กรที่ให้ความสำคัญกับ "Feedback Culture" จะช่วยให้ทีมสามารถปรับตัวและพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง

  • มุ่งเน้นผลลัพธ์มากกว่ากระบวนการ

Agile เน้นไปที่คุณค่าที่ส่งมอบให้ลูกค้ามากกว่าการปฏิบัติตามกระบวนการที่เคร่งครัด องค์กรควรลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น และให้อิสระกับทีมในการกำหนดแนวทางการทำงานของตนเอง เพื่อให้สามารถส่งมอบงานได้เร็วขึ้น การทำงานแบบทำให้ดีพอและค่อยปรับปรุงต่อเนื่อง ดีกว่าการรอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบก่อนจะเริ่มต้น การให้ความสำคัญกับผลลัพธ์และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ทีมสามารถสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าได้เร็วขึ้น และช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

  • ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

Agile ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระบวนการทำงาน แต่เป็นแนวคิดที่ต้องมาพร้อมกับการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง องค์กรที่ต้องการปรับตัวให้เข้ากับ Agile ควรสนับสนุนให้พนักงานมีโอกาสเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็น Design Thinking, Data Analytics หรือ Digital Tools เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน นอกจากนี้ การมี Coaching และ Mentoring จะช่วยให้ทีมสามารถพัฒนาและแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดให้มีการประชุมรีวิวหรือ Sprint Retrospective หลังจากแต่ละรอบของการทำงาน จะช่วยให้ทีมสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์จริง และนำไปปรับปรุงกระบวนการทำงานในอนาคต

  • สนับสนุนการทำงานแบบ Cross-functional Teams

หนึ่งในแนวคิดสำคัญของ Agile คือการทำงานร่วมกันระหว่างทีมที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลาย หรือ Cross-functional Teams องค์กรควรส่งเสริมให้แต่ละทีมมีสมาชิกจากหลายฝ่าย เช่น นักพัฒนา นักออกแบบ นักการตลาด และฝ่ายธุรกิจ เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้แบบองค์รวม การทำงานแบบ Self-organizing Teams ที่ให้แต่ละทีมมีอิสระในการจัดการงานของตัวเอง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

Agile ไม่ใช่แค่ “กระบวนการ” แต่เป็น “แนวคิด” ที่ช่วยให้การทำงานยืดหยุ่น ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้น องค์กรที่อยากใช้ Agile ให้ประสบความสำเร็จ ต้องไม่ใช่แค่การนำ Framework หรือเครื่องมือมาใช้ แต่ต้องเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้รองรับความยืดหยุ่น เปิดรับการเปลี่ยนแปลง และให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีม โดยองค์กรที่สามารถปลูกฝังแนวคิดเหล่านี้ได้ จะทำให้ Agile กลายเป็น DNA ขององค์กร ที่ช่วยให้พนักงานสามารถเติบโตและปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์

นอกจากการทำงานที่ยืดหยุ่นแล้ว การบริหารการเงินก็ต้องคล่องตัวและพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน บัตรเครดิต KTC ช่วยให้คุณบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนทำงานยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น โปรโมชั่นผ่อน 0%, เปลี่ยนยอดชำระเต็ม ผ่อนด้วยดอกเบี้ยพิเศษ 0.74% ต่อเดือนด้วยตัวเองผ่านแอป KTC Mobile, สิทธิพิเศษในการได้รับส่วนลดจากร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม บริการต่างๆ ที่สำคัญทุกการจ่ายผ่านบัตร 25 บาท จะได้รับ 1 คะแนน KTC FOREVER โดยสามารถนำคะแนนไปแลกเป็นส่วนลด สินค้า/บริการ ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ และคะแนนไม่มีวันหมดอายุอีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ ได้เลยตอนนี้ ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC

Apply Online Service

KTC Credit cards and KTC PROUD

QR Code สมัครออนไลน์ด้วยตนเอง
Scan QR Code
to apply online service
Learn more

Apply Online Service

KTC Credit cards
and KTC PROUD

Apply Now Learn more

Add your contact details
for call back service.

Get advice and help with applying KTC products.

บัตรเครดิต KTC KTC Credit Card สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH KTC CASH KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC P BERM
Car for Cash (Big bike)
บัตรกดเงินสด KTC PROUD KTC PROUD สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม KTC P BERM
Car for Cash (Car)
KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์ KTC P BERM
Car for Cash
(Motorcycle)
บัตรเครดิต KTC KTC Credit Card บัตรกดเงินสด KTC PROUD KTC PROUD สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH KTC CASH สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม KTC P BERM
Car for Cash (Car)
KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC P BERM
Car for Cash (Big bike)
KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์ KTC P BERM
Car for Cash
(Motorcycle)

About KTC

  • Vision / Mission
  • General Information
  • Group’s Shareholding
  • Organization Structure
  • Board of Directors
  • Executives
  • Company Secretary
  • Compliance and Internal Audit
  • Financial Controller
  • Data Protection Notice
  • Cookies Notice
  • PR News
  • Article
  • Career / Internship

Customer Services

  • Online Services
  • Rates and Fees
  • Interest / Fee Calculator
  • Payment Channels
  • KTC Auto Payment
  • Download
  • Announcement
  • FAQ
  • Site Map

Sustainability Development

  • Economic Dimension
  • Social Dimension
  • Environmental Dimension
  • Internal Control
    and Risk Management
  • Information Security Management System (ISO/IEC 27001:2013) Certification

Investor Relations

  • Financial Hightlight
  • Publications and Webcast
  • Shareholder
  • Bondholder
  • Policy
  • IR Contact

KTC PHONE

02 123 5000
CAC Certified

Download App

KTC Mobile
KTC Mobile KTC Mobile KTC Mobile
ติดตามข่าวสารได้ที่
KTC LINE KTC LINE KTC Facebook KTC Facebook KTC instagram KTC instagram KTC Youtube KTC Youtube KTC TikTok KTC TikTok KTC twitter KTC twitter
© 2020 Krungthai Card PCL.
Follow us on
KTC LINE KTC LINE KTC Facebook KTC Facebook KTC instagram KTC instagram KTC Youtube KTC Youtube KTC TikTok KTC TikTok KTC twitter KTC twitter

EN

TH

KTC LIVE CHAT

Live Chat

KTC LIVE CHAT
สมัครบัตรเครดิต KTC
สมัครกดเงินสด KTC PROUD
All
Promotion
Credit card
Article
News
0 Result
คุณกำลังหมายถึง?
    See more

    Not found

    Check your search keywords and try again.
    Try searching with fewer keywords.
    History Search
    History empty
    Clear all
    KTC
    Filter promotion
    All category
    • Select all
    • Clear all
    All brand
    • Select all
    • Clear all
    Choose Product

    KTC Credit Card

    KTC PROUD

    KTC CASH

    สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ <span>KTC พี่เบิ้ม</span>

    KTC P BERM

    Filter

    ตัวกรอง

    Search
    www.ktc.co.th ไม่รองรับเบราว์เซอร์ Internet Explorer
    หากดำเนินการต่อ การใช้งานในบางเมนู/รายการอาจไม่สมบูรณ์

    © 2019 Krungthai Card PCL.

    EN

    TH

    Live Chat

    ประกาศปิดปรับปรุงระบบแอป KTC Mobile ชั่วคราว
    KTC จะทำการปิดปรับปรุงระบบแอป KTC Mobile ในวันพุธที่ 14 พฤษภาคม 2568 เวลา 00:00 - 04:00 น. ซึ่งจะส่งผลให้ไม่สามารถใช้งานแอป KTC Mobile ได้ในช่วงเวลาดังกล่าว

    หากสมาชิกบัตรต้องการความช่วยเหลือ หรือต้องการอายัดบัตรฯ ชั่วคราว สามารถติดต่อ KTC PHONE 02 123 5000 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

    ขออภัยในความไม่สะดวก



    KTC Mobile App Maintenance Announcement
    KTC will be performing maintenance on the KTC Mobile App on Wednesday, May 14, 2025, from 12:00 AM to 4:00 AM. During this period, the KTC Mobile App will be temporarily unavailable.

    If KTC cardmembers require assistance or need to temporarily block their card, please contact KTC PHONE at 02 123 5000

    We apologize for any inconvenience caused.