เป้าหมายระยะยาวปี 2571
การจัดซื้อ จัดหา ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จำนวนร้อยละ 25
เป้าหมายปี 2571
การจัดซื้อ จัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จำนวนร้อยละ 17
ผลการปฏิบัติงานปี 2566
การจัดซื้อ จัดหา ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จำนวนร้อยละ 28
ความเสี่ยง (Risk)

บริษัทอาจสูญเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ หากคู่ค้าละเลยหรือดำเนินธุรกิจโดยไม่คำนึงถึงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยอาจถูกมองว่ามีส่วนในการส่งเสริมให้คู่ค้าดำเนินธุรกิจอย่างไร้ความรับผิดชอบ เช่น การละเมิดสิทธิมนุษยชน การใช้แรงงานเด็กแรงงานที่ผิดกฎหมาย หรือการสร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม

โอกาส (Opportunity)

หากบริษัทให้ความสำคัญและสนับสนุนให้คู่ค้ามีความเข้าใจ และคำนึงถึง ESG จะส่งผลให้การร่วมมือระหว่างบริษัทและคู่ค้าดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงสามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อ ผู้มีส่วนได้เสียในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ พร้อมกับการรับผิดชอบต่อประเด็นความยั่งยืนในมิติต่าง ๆ

บริษัทส่งเสริมให้คู่ค้ามีการบริหารกิจการด้วยความรับผิดชอบตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ต่อต้านการคอร์รัปชัน เคารพสิทธิมนุษยชน คำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยไม่ได้จำกัดเพียงแค่ภายในบริษัท ด้วยการใช้บริการจากคู่ค้าและการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืนตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกคู่ค้าที่มีการดำเนินงานที่มีมาตรฐานการให้บริการ ครอบคลุมการคำนึงถึงคุณภาพและการส่งมอบสินค้าและบริการที่ลดผลกระทบและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Procurement) พร้อมดูแลให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ผ่านแนวทางการจัดการ ดังนี้

นโยบายและหลักเกณฑ์ในการ
บริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน
กระบวนการคัดเลือกคู่ค้า
การบริหารจัดการ
ความเสี่ยงคู่ค้า
การร่วมดูแลช่วยเหลือและยกระดับความตระหนักถึงเรื่องการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนให้แก่ลูกค้า
การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
1
1.นโยบายและหลักเกณฑ์ในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน

บริษัทกำหนดนโยบายและหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนและครอบคลุมประเด็นด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อใช้เป็นเกณฑ์การคัดเลือกและพิจารณาคุณสมบัติคู่ค้า(1) ในการจัดซื้อจัดจ้างหรือการใช้บริการ ดังนี้

นโยบายการใช้บริการจากพันธมิตรทางธุรกิจ
นโยบายการใช้บริการจากพันธมิตรทางธุรกิจ

บริษัทนำหลักเกณฑ์และแนวทางการใช้บริการจากพันธมิตรทางธุรกิจของธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารกรุงไทย มาปรับปรุงนโยบายให้เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจและทบทวนอย่างสม่ำเสมอ โดยครอบคลุม

  • บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบในการใช้บริการจากพันธมิตรทางธุรกิจ
  • หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้บริการจากพันธมิตรทางธุรกิจ
  • การคัดเลือกและการตรวจรับมอบงาน
  • ข้อกำหนดของสัญญาการใช้บริการ
  • แนวปฏิบัติที่สอดคล้องกับนโยบายต่อต้านการคอร์รัปชัน รวมถึงการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
  • การติดตาม ดูแล และการบริหารจัดการความเสี่ยง
  • แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้องในการบริหารความเสี่ยงของการใช้บริการจากพันธมิตรทางธุรกิจ
  • บันทึกข้อตกลงระหว่างบริษัทในฐานะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล กับผู้ให้บริการธุรกิจสนับสนุนและคู่ค้าในฐานะของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor Agreement)
ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง
ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง

บริษัทจัดให้มีระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งครอบคลุม วิธีการคัดเลือกผู้ขาย อำนาจอนุมัติในการจัดซื้อจัดจ้าง การตรวจรับมอบสินค้าหรือบริการ เป็นต้น เพื่อเป็นมาตรฐานในการพิจารณาและการดำเนินงานด้านการจัดซื้อจัดจ้างของสายงานที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างตามขอบเขตที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้

จรรยาบรรณคู่ค้าของบริษัท และการรักษาข้อมูลความลับ
จรรยาบรรณคู่ค้าของบริษัท และการรักษาข้อมูลความลับ

บริษัทจัดให้มีจรรยาบรรณคู่ค้าและการรักษาข้อมูลความลับ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจร่วมกับคู่ค้าที่แสดงออกถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมาย จรรยาบรรณธุรกิจของบริษัท การรักษาข้อมูลความลับ ตลอดจนมาตรฐานสากล โดยมีขอบเขตและแนวปฏิบัติครอบคลุมประเด็น ดังนี้

  • จริยธรรมทางธุรกิจและการปฏิบัติตามกฎหมาย
  • สิทธิมนุษยชนและแรงงาน
  • ความปลอดภัย และอาชีวอนามัย
  • สิ่งแวดล้อม
  • การรักษาข้อมูลความลับ

(โปรดพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ktc.co.th/sustainability-development/corporate-governance หัวข้อ “จรรยาบรรณคู่ค้าของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และการรักษาข้อมูลความลับ”)

2
2.กระบวนการคัดเลือกคู่ค้า

การจัดกลุ่มประเภทคู่ค้า

บริษัทจัดกลุ่มคู่ค้า เป็น 2 ประเภทหลัก คือ

  1. 1. ผู้ให้บริการภายนอก(Outsource) หมายถึง พันธมิตรทางธุรกิจ ตามนิยามที่กำหนดไว้ในนโยบายการใช้บริการจากพันธมิตรทางธุรกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย ได้แก่ นิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาที่มีการทำสัญญาหรือข้อตกลงร่วมกับบริษัทในการให้บริการ ทั้งที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดำเนินการแทนบริษัท เช่น ตัวแทนทางการเงิน และผู้ให้บริการภายนอก (Outsourcing) หรือพันธมิตรทางธุรกิจในรูปแบบอื่นที่มีการทำธุรกิจร่วมกับบริษัทเพื่อเอื้อให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจ
  2. 2. คู่ค้าทั่วไป หมายถึง ผู้ขายสินค้าหรือให้บริการแก่เคทีซี ที่ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจหลักหรือมีความเสี่ยงต่ำ

หลักเกณฑ์ในการระบุคู่ค้ารายสำคัญของบริษัท

บริษัทกำหนดหลักเกณฑ์ในการระบุคู่ค้ารายสำคัญของบริษัท ซึ่งครอบคลุมคู่ค้าที่มีการจ้างผ่านตัวกลางอย่างชัดเจน ตามประเภทกลุ่มงานและยอดการใช้จ่าย ดังนี้

Tier 1 พันธมิตรทางธุรกิจ
Tier 1 - พันธมิตรทางธุรกิจ
กลุ่มงานหลักที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์และกลุ่มงานสนับสนุนธุรกิจ (นิยามตามนโยบายการใช้บริการจากพันธมิตรทางธุรกิจ) และมียอดการใช้จ่าย ≥ 5 ล้านบาทขึ้นไป
Tier 2 พันธมิตรทางธุรกิจ
Tier 2 - พันธมิตรทางธุรกิจ
กลุ่มงานหลักที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์และกลุ่มงานสนับสนุนธุรกิจ (นิยามตามนโยบายการใช้บริการจากพันธมิตรทางธุรกิจ) และมียอดการใช้จ่ายตั้งแต่ 1 - < 5 ล้านบาท
Tier 3 พันธมิตรทางธุรกิจ และคู่ค้าทั่วไป
Tier 3 - พันธมิตรทางธุรกิจและคู่ค้าทั่วไป
พันธมิตรทางธุรกิจที่นอกเหนือจากกลุ่ม Tier 1, 2 และกลุ่มคู่ค้าทั่วไปที่มีความเสี่ยงอยู่ในระดับปานกลางหรือต่ำ

การคัดเลือกคู่ค้า

บริษัทมีแนวปฏิบัติสำหรับการคัดเลือกคู่ค้า ทั้งในกรณีจ้างใหม่ ต่อสัญญา ประเมินรายปี และ/หรือลักษณะงานใหม่ โดยมีหลักเกณฑ์แตกต่างกันไปตามกลุ่มของคู่ค้า ซึ่งมีตัวอย่างหลักเกณฑ์ที่ใช้พิจารณา เช่น

การขึ้นทะเบียนคู่ค้า

เมื่อผ่านกระบวนการคัดเลือกคู่ค้าแล้ว บริษัทจะนำส่งแบบฟอร์มการขึ้นทะเบียนคู่ค้า พร้อมทั้งจรรยาบรรณคู่ค้าของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และการรักษาข้อมูลความลับ เพื่อให้คู่ค้าใช้เป็นแนวทางปฏิบัติและลงนามรับทราบแนวปฏิบัติ ทั้งนี้ ยกเว้นกลุ่มคู่ค้า เช่น ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (modern trade ) หรือ คู่ค้ารายย่อย ซึ่งเป็นการซื้อสินค้าในกลุ่มเบ็ดเตล็ด ที่ไม่มีนัยสำคัญต่อการให้บริการของบริษัท

การจัดซื้อจัดจ้าง

กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง โดยมีการจัดหาสินค้าและบริการอย่างโปร่งใส เป็นธรรม สามารถตรวจสอบได้ โดยมีการคำนึงถึงด้านต่าง ๆ เช่น คุณภาพ การส่งมอบสินค้าและบริการที่ลดผลกระทบและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Procurement) เป็นต้น

กระบวนการบริหารจัดการความเสี่ยง

บริษัทมีกระบวนการบริหารจัดการความเสี่ยงคู่ค้า โดยแยกตามประเภทคู่ค้า ดังนี้

พิจารณาเกี่ยวกับ
  • สถานะทางการเงิน
  • การดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล ไม่ขัดต่อกฎหมาย ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน
  • ข้อปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • ความเกี่ยวข้องของพันธมมิตรทางธุรกิจกับกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท
  • การคุ้มครองข้อมูลของลูกค้า
เป็นต้น
  • ระบุกระบวนการ / ขั้นตอน / สารสนเทศ และ/หรือ ระบบสารสนเทศ
  • ระบุจุดที่เกิดความเสี่ยง
  • ระบุสาเหตุ / ปัจจัยความเสี่ยง
  • ระบุการควบคุมความเสี่ยง
พิจารณาเกี่ยวกับ
  • ระดับความเสี่ยงและคุณภาพในการจัดการความเสี่ยง
  • การบริหารความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ
  • มาตรการคุ้มครองลูกค้า
  • การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจและความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการ สังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
ทั้งนี้มีการจัดลำดับความสำคัญของความเสี่ยงที่อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของเคทีซี
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit. Rerum aut blanditiis, voluptatibus quasi nobis eos asperiores cum nam vel maiores, voluptate ratione modi nesciunt molestiae, nisi atque accusantium obcaecati quaerat!
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit. Rerum aut blanditiis, voluptatibus quasi nobis eos asperiores cum nam vel maiores, voluptate ratione modi nesciunt molestiae, nisi atque accusantium obcaecati quaerat!
โดยมีขอบเขตและแนวปฏิบัติ ประกอบด้วย
  • จริยธรรมทางธุรกิจ (Business Ethics)
  • สิทธิมนุษยชนและแรงงาน (Human Rights and Labor)
  • ความปลอดภัย และอาชีวอนามัย (Safety and Occupational Health)
  • สิ่งแวดล้อม (Environment)
  • กฎหมายและข้อกำหนด (Law and Regulation)
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit. Rerum aut blanditiis, voluptatibus quasi nobis eos asperiores cum nam vel maiores, voluptate ratione modi nesciunt molestiae, nisi atque accusantium obcaecati quaerat!
3
3.การบริหารจัดการความเสี่ยงคู่ค้า
  • การระบุความเสี่ยง

    บริษัทมีกระบวนการในการระบุความเสี่ยงที่เกิดจากคู่ค้าผ่านการประเมินแนวทางการบริหารความเสี่ยงตนเองของการใช้บริการจากคู่ค้าเป็นประจำทุกปี ซึ่งความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นครอบคลุมประเด็นความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เช่น

ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ
  • ความเสี่ยงต่อคุณภาพบริการและการส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือบริการ
  • การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
  • การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ
  • ความเสี่ยงเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการ
เป็นต้น
  • การปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน
  • การละเมิดสิทธิมนุษยชน
  • ความปลอดภัย
  • การปฏิบัติตามคู่มือจรรยาบรรณการดำเนินธุรกิจของคู่ค้า
เป็นต้น
  • การปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม
  • ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม
เป็นต้น
ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ ความเสี่ยงด้านสังคม ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม
  • คุณภาพบริการและการส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือบริการ
  • การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
  • การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ
  • การกำกับดูแลกิจการ
  • การเปลี่ยนแปลงหรือบอกเลิกสัญญาก่อนครบอายุสัญญา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระดับคุณภาพ
  • การปฏิบัติตามกฏหมายแรงงาน
  • การไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน
  • ความปลอดภัยในการทำงาน
  • การปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม

การประเมินความเสี่ยงจากการใช้บริการจากคู่ค้า

1. ผู้ให้บริการภายนอก
บริษัทมีการประเมินความเสี่ยงตนเองจากการใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอกเป็นประจำทุกปี โดยพิจารณาระดับความเสี่ยงและระดับคุณภาพการจัดการความเสี่ยงในประเด็นต่าง ๆ เช่น
  • การบริหารความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ ซึ่งจะพิจารณาการดำเนินการตามแนวทางในการคัดเลือกผู้ให้บริการภายนอก การติดตาม และตรวจสอบผลการดำเนินงาน
  • มาตรการคุ้มครองลูกค้า แนวทางการรักษาความปลอดภัยข้อมูลลูกค้า การรับข้อร้องเรียน การจัดการและแก้ไขปัญหา
  • การจัดทำแผนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจและการทดสอบ
2. คู่ค้า
บริษัทมีการประเมินการปฏิบัติตามคู่มือจรรยาบรรณและการดำเนินธุรกิจของคู่ค้า โดยมีขอบเขตและแนวปฏิบัติ ประกอบด้วย
  • จริยธรรมทางธุรกิจ
  • สิทธิมนุษยชนและแรงงาน
  • ความปลอดภัย และอาชีวอนามัย
  • สิ่งแวดล้อม
  • กฎหมายและข้อกำหนด

การบริหารและการควบคุมความเสี่ยง

บริษัทได้จัดทำมาตรการบริหารและควบคุมความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากคู่ค้า ดังนี้

จัดทำคู่มือจรรยาบรรณคู่ค้า
จัดทำจรรยาบรรณคู่ค้า และการรักษาข้อมูลความลับ และเปิดเผยให้คู่ค้ารับทราบและประเมินตนเอง

เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติตามข้อกำหนดในจรรยาบรรณคู่ค้าก่อนการเข้าร่วมเป็นคู่ค้าของบริษัท

จัดทำนโยบายการใช้บริการจากพันธมิตรทางธุรกิจ
จัดทำนโยบายการใช้บริการจากพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการใช้บริการจากพันธมิตรทางธุรกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารกรุงไทย

โดยให้ความสำคัญกับการประเมินและควบคุมความเสี่ยง และการติดตามตรวจสอบกระบวนการทำงานของพันธมิตรทางธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการบริหารความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจและการให้บริการแก่ลูกค้า นอกจากนี้ ได้กำหนดไว้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาการใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอก ในการให้ผู้ตรวจสอบสามารถเข้าตรวจสอบการปฏิบัติงานของผู้ให้บริการภายนอกได้ด้วย

กระบวนการและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส
กระบวนการและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส เป็นธรรม

โดยพิจารณาปัจจัยด้านราคา คุณภาพ การส่งมอบสินค้าและบริการ ควบคู่ไปกับการสร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ติดตาม ตรวจสอบ ควบคุมคุณภาพคู่ค้า
ติดตาม ตรวจสอบ ควบคุมคุณภาพคู่ค้า

เพื่อให้มั่นใจว่าคู่ค้ามีมาตรฐานการทำงานเป็นไปตามข้อกำหนดตามสัญญาการใช้บริการ และเพื่อนำมาใช้ปรับปรุงกระบวนการทำงาน ผลิตภัณฑ์และบริการที่ส่งมอบอย่างต่อเนื่อง

ตรวจประเมินพื้นที่ปฏิบัติการของคู่ค้า
ตรวจประเมินพื้นที่ปฏิบัติการของคู่ค้า (Supplier Site Visit)

เพื่อตรวจประเมินการปฏิบัติตามสัญญาการใช้บริการ จรรยาบรรณทางธุรกิจของคู่ค้า (KTC Supplier Code of Conduct) การรักษาความลับทางข้อมูลสารสนเทศและข้อมูลส่วนบุคคล การคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน การปฏิบัติต่อแรงงานด้วยความเป็นธรรม ถูกต้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยและการบริหารจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทได้มีการสุ่มตรวจประเมินพื้นที่ปฏิบัติงานของผู้ให้บริการภายนอกหรือการสัมภาษณ์ผู้ให้บริการภายนอกเป็นประจำ เช่น เมื่อมีการต่ออายุสัญญาสำหรับคู่ค้า Tier 1 และ Tier 2 หรือ สุ่มตรวจกลุ่มคู่ค้า Tier 3 ซึ่งมีมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างตามเกณฑ์ที่กำหนด เป็นต้น

กำหนดข้อตกลงของระดับการให้บริการ
กำหนดข้อตกลงของระดับการให้บริการ (Service Level Agreement: SLA)

เพื่อกำหนดเป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่ผู้ให้บริการภายนอกต้องปฏิบัติตาม สามารถติดตาม ตรวจสอบ และรายงานความเสี่ยงได้ โดยมีกำหนดการรายงานตามความเหมาะสม

กระบวนการและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง
กระบวนการและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส เป็นธรรม

โดยนำปัจจัยด้านราคา คุณภาพ การส่งมอบสินค้าและบริการ เพื่อสร้างกำไรให้องค์กรและพิจารณาควบคู่ไปกับการสร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

การแก้ไขและบรรเทาความเสี่ยง

ในกรณีที่พบว่าคู่ค้ารายใดละเมิดหลักเกณฑ์ที่กำหนด บริษัทมีกระบวนการแจ้งเตือน เพื่อหาแนวทางการป้องกันและให้ระยะเวลาในการปรับปรุงประเด็นดังกล่าว หากไม่ปฏิบัติตาม บริษัทจะทำการยกเลิกสัญญาและถอดรายชื่อออกจากทะเบียนผู้ขายของบริษัท

จำนวนคู่ค้าทั้งหมดที่ลงนามรับทราบจรรยาบรรณการดำเนินธุรกิจของคู่ค้า (Supplier Code of Conduct) ตั้งแต่ปี 2562 – 2565

ผลการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน

สัดส่วนจำนวนคู่ค้า Tier 1-2 ที่ลงนามรับทราบจรรยาบรรณธุรกิจต่อจำนวนคู่ค้า Tier 1-2 ทั้งหมด
96%
สัดส่วนจำนวนคู่ค้า Tier 1-2 ที่ลงนามรับทราบจรรยาบรรณธุรกิจต่อจำนวนคู่ค้าที่ขึ้นทะเบียนผู้ขาย
86%
จำนวนคู่ค้ารายสำคัญที่บริษัทได้ตรวจประเมินพื้นที่ปฏิบัติการจำนวน 17 ราย พบว่า 100% ปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้า
100%
*Mockup เพิ่มกรณีมีอันที่ 4 (Lorem ipsum dolor sit amet consectetur Euismod vivamus lorem elementum nibh integer at nulla)
96%

(ข้อมูล ณ สิ้นปี 2565)

การแก้ไขและบรรเทาความเสี่ยง

ในกรณีที่พบว่าคู่ค้ารายใดละเมิดหลักเกณฑ์ที่กำหนด บริษัทมีกระบวนการแจ้งเตือน เพื่อหาแนวทางการป้องกันและให้ระยะเวลาในการปรับปรุงประเด็นดังกล่าว หากไม่ปฏิบัติตาม บริษัทจะทำการยกเลิกสัญญาและถอดรายชื่อออกจากทะเบียนผู้ขายของบริษัท

จำนวนคู่ค้า Tier 1 และ Tier 2
มีการปฏิบัติไม่สอดคล้องกับจรรยาบรรณคู่ค้าของบริษัท
7
ร้อยละ
4
4.การร่วมดูแลช่วยเหลือและยกระดับความตระหนักถึงเรื่องการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนให้แก่คู่ค้า

บริษัทมีคู่ค้าที่หลากหลายซึ่งได้รับการรับรองคุณภาพต่าง ๆ เช่น การรับรองการผลิตบัตรที่มีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงจาก Card Brands มาตรฐานการปฏิบัติและจัดการข้อมูลตามมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง (International Organization for Standardization: ISO) ในด้านการจัดการความปลอดภัยงานพิมพ์ การจัดการคุณภาพและบริการ การจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อม การจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เป็นต้น


บริษัทเปิดโอกาสให้คู่ค้าเสนอแนะและร่วมพัฒนากระบวนการทำงานให้เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ด้วยการแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกันผ่านการประชุมและสัมมนาที่จัดเป็นประจำ นอกจากนี้เคทีซีได้ร่วมกับบริษัทคู่ค้าจัดการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาและเพิ่มทักษะการทำงานของพนักงานในบริษัทคู่ค้าเป็นประจำทุกปี ในปี 2566 บริษัทได้จัดกิจกรรมดังนี้

หลักสูตรการอบรบให้ความรู้

5
5.การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

บริษัทได้เชิญชวนพนักงาน ลูกค้า คู่ค้าในการลดการใช้ทรัพยากรที่เกินความจำเป็น เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและต้นทุนดำเนินงาน เช่น การลดวัสดุสิ่งพิมพ์สำหรับลูกค้าและคู่ค้าบางกลุ่ม เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทสนับสนุนการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Procurement) และได้รับการรับรองฉลากสิ่งแวดล้อม (เช่น ฉลากเขียว ฉลากลดคาร์บอน) เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องเขียน กระดาษถนอมสายตาสำหรับพิมพ์เอกสารของบริษัท และใบสมัครขอใช้บริการบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล เป็นต้น

Green Paper
ณ สิ้นปี 2566 บริษัทสามารถเปลี่ยนการสั่งซื้อกระดาษสำหรับใช้ในการดำเนินงานเป็นกระดาษที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Paper) ได้มากกว่า
95%
Green Paper
ปี 2566 บริษัทมีมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จำนวน
12.48 ล้านบาท
จากการดำเนินงาน 3.30 ล้านบาท โครงการปรับปรุงออฟฟิศใหม่ 9.18 ล้านบาท

การสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตงานด้านสิ่งพิมพ์ที่ได้รับเครื่องหมายรับรอง Carbon Neutral Certification หรือ Green Print

บริษัทได้เชิญชวนพนักงาน ลูกค้า คู่ค้าในการลดการใช้ทรัพยากรที่เกินความจำเป็นในทุกส่วนของการทำงาน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและต้นทุนดำเนินงาน เช่น การลดวัสดุสิ่งพิมพ์สำหรับลูกค้าและคู่ค้าบางกลุ่ม เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทสนับสนุนการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Procurement) และได้รับการรับรองฉลากสิ่งแวดล้อม (เช่น ฉลากเขียว ฉลากลดคาร์บอน) เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องเขียน กระดาษถนอมสายตาสำหรับพิมพ์เอกสารของบริษัท ใบสมัครขอใช้บริการบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล และ KTC NEWSLETTER

การจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในปี 2565 บริษัทมีมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จำนวน
7.17 ล้านบาท
จากการดำเนินงานและโครงการปรับปรุงออฟฟิศใหม่