หมายเหตุ:
(1) อัตราการขาดงานจากการเจ็บป่วยและบาดเจ็บจากการทำงาน
(2)การรายงานผ่านช่องทาง HR และระบบ GS online
หมายเหตุ:
(1) อัตราการขาดงานจากการเจ็บป่วยและบาดเจ็บจากการทำงาน
(2)การรายงานผ่านช่องทาง HR และระบบ GS online
การดูแลสุขภาวะและความปลอดภัยในสถานที่ทำงานเป็นเรื่องสำคัญ หากบริษัทละเลยหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง อาจส่งผลให้สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมกับการทำงาน กลายเป็นปัญหาทั้งด้านกายภาพและด้านจิตใจของพนักงาน รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานอาจลดลง
หากบริษัทมีการดูแลสุขภาวะและความปลอดภัยในการทำงานให้พนักงานที่ดี จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานเพิ่มขึ้น อัตราการลาป่วย หรือลาออกของพนักงานลดลง รวมทั้งส่งเสริมด้านภาพลักษณ์และชื่อเสียงของบริษัทด้วย
บริษัทตระหนักถึงสิทธิด้านความมั่นคงปลอดภัยของพนักงานจึงใส่ใจดูแล สุขภาวะและความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมการทำงาน เพื่อการเป็นองค์กรที่ปราศจากอุบัติเหตุ มอบความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่พนักงาน ส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และปลูกฝังจิตสำนึกด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยภายในองค์กร สร้างความตระหนักถึงสาเหตุและผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายจากการทำงาน และดำเนินการจัดสภาพแวดล้อมและพื้นที่การทำงานให้ปลอดภัยตามกฎหมายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีของพนักงาน ลดโอกาสเสี่ยง ความกังวลใจ และป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บจากการทำงานของพนักงานในบริษัทอย่างต่อเนื่อง
บริษัทได้นำหลักของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาวะและความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมการทำงานทั้งในประเทศและต่างประเทศมาปรับใช้กับนโยบายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมในการทำงานของบริษัท ซึ่งนโยบายดังกล่าวผ่านการพิจารณาอนุมัติจากคณะอนุกรรมการ Management Committee และมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
หมายเหตุ :
นโยบายดังกล่าวครอบคลุมพนักงานทั้งหมด
ซึ่งแบ่งเป็น พนักงานประจำและพนักงานสัญญาจ้าง
ตามคำนิยามพนักงาน ในหัวข้อ
“คำอธิบายเพิ่มเติม”
ทั้งนี้
บริษัทสนับสนุนให้คู่ค้าของบริษัทปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
โดยได้กำหนดขอบเขตและแนวปฏิบัติไว้ในจรรยาบรรณคู่ค้าของบริษัท
เพื่อให้คู่ค้าใช้เป็นแนวปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจ
สอดคล้องกับข้อกฎหมายและจรรยาบรรณของบริษัท
กล่าวคือ
1.
คู่ค้าจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย
อาชีวอนามัย
และสิ่งแวดล้อมที่บังคับใช้อย่างเคร่งครัด
2.
คู่ค้าควรจัดสภาพแวดล้อมการทำงานให้มีความปลอดภัย
ถูกสุขอนามัย
และเอื้อต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิผลให้แก่พนักงาน
รวมถึงจัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลให้แก่พนักงานอย่างเพียงพอและเหมาะสม
บริษัทจัดให้มีคณะกรรมการชุดต่างๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบริษัทมีการการกำกับดูแลและบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และมีการกำกับดูแลและบริหารจัดการด้านสุขภาวะและความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมการทำงาน ดังนี้
คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประกอบด้วยประธานคณะกรรมการ กรรมการผู้แทนระดับผู้บังคับบัญชาและเลขานุการ และกรรมการผู้แทนลูกจ้างระดับปฏิบัติการ ซึ่งเป็นผู้แทนจากสายงานต่าง ๆ โดยคณะกรรมการดังกล่าวมีหน้าที่รับผิดชอบบริหารงานความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
คณะบริหารจัดการภาวะฉุกเฉิน (Crisis Management Committee) ซึ่งมี Chief Operations Officer ทำหน้าที่เป็นประธานคณะอนุกรรมการ และประกอบด้วยอนุกรรมการซึ่งเป็นผู้บริหารจากหน่วยงานต่าง ๆ
โดยมีหน้าที่กำหนดขอบเขตของแผนรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan: BCP) เพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤตต่าง ๆ เช่น ภัยพิบัติ โรคระบาด อัคคีภัย เป็นต้น ตลอดจนการพิจารณาตัดสินใจในการประกาศใช้แผนและควบคุมดูแลการดำเนินการตามแผนดังกล่าวเพื่อให้ธุรกรรมงานที่สำคัญของบริษัทสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง
บริษัทได้ดำเนินการเพื่อดูแลสุขภาวะและความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ดังนี้
การประเมินความเสี่ยง
การจัดลำดับความสำคัญ
และการบูรณาการแผนปฏิบัติการกับเป้าหมายเชิงปริมาณเพื่อจัดการกับความเสี่ยง
1.
ประเมินและจัดลำดับความสำคัญของความเสี่ยง
ผู้ดูแลรับผิดชอบในเรื่องที่เกี่ยวข้องของแต่ละพื้นที่
เช่น สายงานทรัพยากรบุคคล
(HR) ฝ่ายบริหารงานทั่วไป
(GS) พยาบาล เป็นต้น
ประเมินและพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของความเสี่ยงด้านสุขภาวะและความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมการทำงาน
2.
จัดทำโครงการและแผนปฏิบัติการ
ผู้เกี่ยวข้องจัดทำโครงการและแผนปฏิบัติการพร้อมกำหนดวัตถุประสงค์
เป้าหมายเชิงปริมาณและผู้รับผิดชอบ
3.
เสนอต่อคณะกรรมการความปลอดภัย
อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
หรือ คณะอนุกรรมการ
Management Committee
ระดับความเสี่ยง | การดำเนินการ |
---|---|
สูง | ความเสี่ยงอยู่ในระดับสูง จะต้องจัดการความเสี่ยงโดยทันที และแก้ไขให้ระดับความเสี่ยงลดลงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยต้องมีการตรวจสอบการแก้ไขดังกล่าวก่อนอนุญาตให้ปฏิบัติงาน พร้อมจัดทำเป็นมาตรการควบคุม ทั้งนี้ ต้องมีหลักฐานพร้อมให้ตรวจสอบตลอดระยะเวลาดำเนินการ |
ค่อนข้างสูง | ความเสี่ยงอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ให้ทบทวนมาตรการควบคุมที่มีอยู่ ซึ่งกรณีมาตรการควบคุมที่มีอยู่ไม่เพียงพอ อาจจะพิจารณาปรับปรุงมาตรการเดิม หรือยกเลิกและจัดทำมาตรการใหม่ ทั้งนี้ต้องมีหลักฐานพร้อมให้ตรวจสอบตลอดระยะเวลาดำเนินการ |
ปานกลาง | ความเสี่ยงอยู่ในระดับปานกลาง ในระดับที่ยอมรับได้ ดำเนินมาตรการควบคุมที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังไม่ให้ความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น และตรวจสอบการปฏิบัติการโดยหัวหน้างานอย่างเข้มงวด |
ค่อนข้างต่ำ | ความเสี่ยงอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ดำเนินมาตรการควบคุมที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังไม่ให้ความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น |
ต่ำ | ความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำ ตรวจสอบการทำงานเป็นประจำโดยหัวหน้างาน หน่วยงานผู้รับผิดชอบ และคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน |
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการระบุและประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำ งานในระดับ องค์กรผ่านการระบุความเสี่ยงด้านความยั่งยืน (ESG Risk) อีกด้วย
การจัดให้มีช่องทางในการรับแจ้งด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมการทำงาน
บริษัทคำนึงถึงความปถอดภัย
อาชีวอนามัย
แถะสภาพแวดถ้อมการทำงาน
อีกทั้งยังให้ความสำคัญด้านสุขภาพจิต
สวัสดิภาพทางใจ
จัดการความเสี่ยงด้านสุขภาพของพนักงานในเชิงรุก/
ป้องกัน
โดยเฉพาะแนวโน้มปัญหาสุขภาพจิตที่เพิ่มสูงขึ้น
ความเครียด
ความเหนื่อยล้าของแรงงาน
ภาวะหมดไฟที่อาจเกิดขึ้นได้กับคนทำงานทุกที่ทุกวัย
โดยจัดให้มีช่องทางรับแจ้งปัญหาหรือปรึกษาได้ผ่านช่องทางต่าง
ๆ เช่น
• GS
online
ช่องทางในการให้พนักงานแจ้งปัญหา
หรือความเสี่ยงจากการใช้สถานที่
เพื่อให้สามารถแก้ไข
ซ่อมแซม หรือป้องกัน
ไม่ให้เกิดความเสี่ยงจากการทำงานในสถานประกอบการ
โดยมีเหตุการณ์ที่ได้รับแจ้งผ่านช่องทาง
GS Online จำนวน 1,099
เหตุการณ์
ซึ่งสามารถแก้ไขได้ทั้งหมดร้อยละ
100
โดยเป็นเหตุการณ์แจ้งเกี่ยวกับการแจ้งซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า
เฟอร์นิเจอร์ชำรุด
ห้องน้ำชำรุด
การจัดสถานที่
ขนย้ายอุปกรณ์
อุณหภูมิในสถานที่ทำงาน
เป็นต้น
ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยหรือก่อให้เกิดอันตราย
ความเสียหายต่อพนักงาน
การจัดให้มีช่องทางในการรับแจ้งเกี่ยวกับความไม่ปลอดภัย จากการใช้สถานที่
บริษัทจัดให้มีช่องทางในการให้พนักงานแจ้งปัญหา หรือความเสี่ยงจากการใช้สถานที่ เพื่อให้สามารถแก้ไข ซ่อมแซม หรือป้องกัน ไม่ให้เกิดความเสี่ยงจากการทำงานในสถานประกอบการ โดยมีเหตุการณ์ที่ได้รับแจ้งผ่านช่องทาง GS Online จำนวน 617 เหตุการณ์ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ทั้งหมดร้อยละ 100 โดยเป็นเหตุการณ์แจ้งเกี่ยวกับการแจ้งซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ชำรุด ห้องน้ำชำรุด เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยหรือก่อให้เกิดอันตราย ความเสียหายต่อพนักงาน
•
ห้องพยาบาล
ช่องทางให้พนักงานได้ติดต่อ
ขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่พยาบาล
เพื่อประเมิน
สังเกตอาการและปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ในด้านสุขภาพ
ความเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นระหว่างที่ทำงาน
ทั้งนี้หากกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเจ้าหน้าที่จะติดต่อประสานงานไปยังสถานพยาบาลใกล้เคียง
• HR Incident
ช่องทางให้พนักงานได้แจ้งเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในสถานประกอบการ
โดย HR
เป็นคนรับเรื่องและดูแลประสานงานไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหา
• HR
Clinic
ช่องทางให้พนักงานติดต่อเพื่อพูดคุยกับ
HR โดยตรง
เพื่อปรึกษาปัญหา
ขอคำแนะนำ ร้องเรียน
ให้ข้อมูล
โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกรักษาเป็นความลับ
พนักงานสามารถเลือกบุคคลที่อยากจะพูดคุยด้วยได้
เป็นช่องทางที่เปิดรับฟังปัญหาโดยตรงจากพนักงานโดยไม่ผ่านบุคคลที่
3
และยังเป็นการสนับสนุนเรื่อง
Psychological Safety
พื้นที่ปลอดภัยสำหรับพนักงาน
• Jaifull
(Mental Service)
ช่องทางบริการในเชิงสุขภาพจิต(ใจฟูคอยฟัง)
เพื่อสร้างตัวกลางให้พนักงานสามารถเข้าไปพูดคุยปรึกษา
ระบาย ลดความกังวล
ความเครียด ให้คำแนะนำ
โดยใช้บริษัทภายนอกที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านสุขภาพจิต
มีความปลอดภัยในการให้ข้อมูล
การรักษาความลับ
และเป็นการเฝ้าระวังปัญหาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
เพื่อความปลอดภัยของพนักงานในฐานะของผู้เช่าใช้อาคารสำนักงาน บริษัทได้ร่วมกับอาคารในการซ้อมหนีไฟเป็นประจำทุกปี ซึ่งในปี 2565 มีการจัดเตรียมผู้ประสานงานและทำหน้าที่เป็น Fire Warden ประจำแต่ละหน่วยงาน และได้เข้าร่วมซ้อมหนีไฟกับอาคารไทยซัมมิท ในวันที่ 25 มีนาคม 2565 และร่วมซ้อมหนีไฟอาคาร UBC II ในวันที่ 8 เมษายน 2565
บริษัทคำนึงถึงความปลอดภัยและอาชีวอนามัยตั้งแต่กระบวนการการออกแบบ การควบคุมงานก่อสร้าง และงานตรวจรับงานก่อสร้าง เพื่อให้บริษัทมีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เหมาะสม พร้อมใช้ เป็นไปตามมาตรฐานและกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้
• งานออกแบบ
- ออกแบบตามกฎหมายควบคุมอาคารสูง เช่น
ความกว้างของทางเดินหลัก จำนวนห้องน้ำ ห้อง
Pantry จุดบริการน้ำดื่ม งานระบบประกอบอาคาร
และระบบป้องกันอัคคีภัย
- ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ (Human Scale)
เช่นระยะนั่งทำงาน ความสูงโต๊ะ เก้าอี้
รูปแบบเฟอร์นิเจอร์และพื้นที่ต่อตารางเมตรต่อคน
สร้างสุขภาวะที่ถูกต้องและไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุต่อผู้ใช้งาน
• งานควบคุมงานก่อสร้าง
-
มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับวิชาชีพประจำพื้นที่และควบคุมความปลอดภัยระหว่างงานก่อสร้าง
- ฝ่ายอาคาร และฝ่ายงาน GS
มีการตรวจสอบแบบงานตกแต่งและงานระบบประกอบอาคารพร้อมกับอนุมัติแบบฯ
ก่อนการเริ่มปรับปรุงก่อสร้าง
ตกแต่งพื้นที่สำนักงานทุกชั้น
เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานอาคารและกฎหมายควบคุมอาคาร
• งานตรวจรับงานก่อสร้าง
- ทดสอบและตรวจรับงานระบบประกอบอาคาร
ระบบป้องกันอัคคีภัย ระบบ AV/ และระบบ IT
ก่อนรับมอบพื้นที่สำนักงานทุกครั้ง
- ฝ่ายอาคารและฝ่ายงาน GS
มีการตรวจงานตกแต่งและงานระบบประกอบอาคาร
พร้อมอนุมัติแบบฯ หลังการก่อสร้างตกแต่ง
เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานอาคาร
กฎหมายควบคุมอาคาร
และสามารถใช้งานพื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
นำเสนอแบบฯ และสำรวจพื้นที่ร่วมกับทีม UAT,
ISO,
BCPเพื่อวางแผนและตรวจสอบกระบวนการทำงานให้เกิดความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพพร้อมใช้งานมากที่สุด
• การจัดสภาพแวดล้อมในการทำงาน
- การควบคุมความเข้มของแสง
การออกแบบเพื่อกำหนดตำแหน่ง
และเลือกใช้ประเภทหลอดไฟ LED
ให้มีความสว่างที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ปฏิบัติงาน
เช่น โต๊ะทำงาน ห้องประชุมและพื้นที่พักผ่อน
เป็นต้น
-
การตั้งอุณหภูมิภายในพื้นที่สำนักงานให้เหมาะสมกับความหนาแน่นของพื้นที่
และประเภทการปฏิบัติงาน
-
การกำหนดแผนงานทำความสะอาดท่อแอร์ให้ระบบปรับอากาศมีการส่งลมได้ดีขึ้น
ใช้เครื่องฟอกอากาศในสถานที่ปฏิบัติงานเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรค
เป็นประจำทุก 3 เดือน
• การตรวจสอบสภาพแวดล้อมในการทำงาน
-
การตรวจสอบความพร้อมใช้งานของพื้นที่สำนักงาน
และระบบประกอบอาคาร (General Service Building
Inspection)
ร่วมกับที่ปรึกษาภายนอกตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย
อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในที่ทำงานเป็นประจำ
พร้อมทั้งบันทึก ออกรายงานการตรวจสอบ
และแก้ไขปรับปรุง
เพื่อลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นในที่ทำงาน
-
บริษัทจัดให้มีการตรวจสอบการดำเนินการเรื่องความปลอดภัยงานก่อสร้าง
(Construction Management)
การตรวจสอบอุปกรณ์หลังการติดตั้งอุปกรณ์
การตรวจวัดค่าความสว่างของแสง ค่าความชื้น
(Quality Assurance)
และอุณหภูมิภายในพื้นที่สำนักงาน
โดยบริษัทผู้ให้บริการภายนอก นอกจากนี้
บริษัทได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยภายในพื้นที่สำนักงานประจำปี
โดยหน่วยงานที่ปรึกษาภายนอกจากฝ่ายอาคารฯ เช่น
ตรวจสอบระบบอัคคีภัย ระบบไฟฟ้า ระบบสุขาภิบาล
และระบบลิฟต์โดยสาร เป็นต้น
โดยในปี 2565 บริษัทจัดให้มีการตรวจสอบการดำเนินการเรื่องความปลอดภัยงานก่อสร้าง (Construction Management) การตรวจสอบอุปกรณ์หลังการติดตั้ง ค่าความสว่างของแสง ค่าความชื้น (Quality Assurance) โดยหน่วยงานที่ปรึกษาภายนอก
การตรวจสอบภายในตามเกณฑ์ 5 ส และติดตามประเมินผลด้านความสะอาดเรียบร้อยของพื้นที่ทำงานในแต่ละสายงานอย่างสม่ำเสมอ
บริษัทยังคงประกาศมาตรการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งครอบคลุมมาตรการปฏิบัติงานจากบ้าน (Work from Home) และการใช้สิทธิวันลาในสถานการณ์ COVID-19 อีกทั้งได้ดูแลพนักงานในสถานการณ์ที่น่ากังวัลดังกล่าว เช่น การสื่อสารเกี่ยวกับสถานการณ์ของ COVID-19 อย่างรวดเร็วและถูกต้อง การดูแลพนักงานที่มีความเสี่ยงหรือได้รับเชื้อ COVID-19 อย่างใกล้ชิด การจัดหาวัคซีนให้กับพนักงาน เป็นต้น
บริษัทจัดให้มีช่องทางในการให้พนักงานแจ้งปัญหา หรือความเสี่ยงจากการใช้สถานที่ เพื่อให้สามารถแก้ไข ซ่อมแซม หรือป้องกัน ไม่ให้เกิดความเสี่ยงจากการทำงานในสถานประกอบการ โดยมีเหตุการณ์ที่ได้รับแจ้งผ่านช่องทาง GS Online จำนวน 617 เหตุการณ์ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ทั้งหมดร้อยละ 100 โดยเป็นเหตุการณ์แจ้งเกี่ยวกับการแจ้งซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ชำรุด ห้องน้ำชำรุด เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยหรือก่อให้เกิดอันตราย ความเสียหายต่อพนักงาน
บริษัทดำเนินการจัดกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงจัดสถานที่การทำงานที่เอื้อให้พนักงานทำงานได้อย่างมีความสุข สามารถผ่อนคลายความเครียดที่เกิดจากการทำงาน มีสุขภาพกายและใจที่ดี และมีกิจกรรมที่ทำร่วมกันภายในองค์กร ซึ่งก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี โดยมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายตลอดทั้งปี ดังนี้
(1)การยศาสตร์ หมายถึง ศาสตร์หรือวิชาการที่เป็นการปรับเปลี่ยนสภาพงานให้เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงาน หรือเป็นการปรับปรุงสภาพการทำงานอย่างเป็นระบบ เพื่อการทำงานได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ลดความผิดพลาดในการทำงาน พัฒนาความปลอดภัย ลดความเครียดและความล้าจากการทำงาน
เคทีซีได้มีการปรับปรุงพื้นที่สำนักงาน โดยเปิดรับแนวคิดและแรงบันดาลใจจากความเห็นของตัวแทนพนักงานทุกสายงาน เพื่อให้พนักงานมีความสุขกับการทำงานมากที่สุดทุกที่ทุกเวลา และสามารถปรับเปลี่ยนอิริยาบถระหว่างการปฏิบัติงานหรือหลังจากการปฏิบัติงาน โดยไม่จำเป็นต้องนั่งประจำอยู่แต่ที่โต๊ะทำงาน และยังสามารถแชร์ไอเดีย หรือประชุมออนไลน์ได้ตลอดเวลา เพื่อตอบรับเทรนด์การทำงานรูปแบบใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคนทำงานหลายเจนเนอเรชั่นที่เปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีและสภาพสังคมปัจจุบัน เน้นการสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย โปร่งโล่งตามสไตล์มินิมัล พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและนวัตกรรมที่เอื้อต่อการทำงาน รวมทั้งมีมุมนั่งเล่น ห้องคุยโทรศัพท์ส่วนตัว ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ มุมนั่งคุยงานสบายๆ เพราะเราเชื่อว่า เมื่อบุคลากรในองค์กรมีความสุข ประสิทธิภาพการทำงานก็จะดีขึ้น และพร้อมส่งต่อผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณค่าให้กับสมาชิก และพันธมิตรธุรกิจได้อย่างเต็มที่
โดยบริษัท ได้มีการปรับปรุงและจัดสรรพื้นที่ Relaxing & Common Area ให้กับพนักงานเพิ่มมากขึ้น ทั้งอาคาร UBCII และอาคาร Thai Summit ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี 2566
บริษัทจัดให้มีชมรมแบดมินตัน และชมรมฟุตบอล ตามความสนใจของพนักงาน เพื่อเสริมสร้างสุขภาพอนามัยและสนับสนุนการออกกำลังกายให้แก่พนักงาน โดยจัดกิจกรรมต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน และในปี 2565 บริษัทได้จัดเตรียมสนามแบดมินตัน เพื่อให้พนักงานที่สนใจกีฬาแบดมินตัน ได้มารวมตัวกันออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันศุกร์ ตลอดทั้งปี และจัดให้มีการแข่งขันฟุตบอลประจำปีขึ้น โดยมีพนักงานเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 9 ทีม ทำให้พนักงานที่สนใจในกีฬาฟุตบอลจากทุกหน่วยงาน รวมถึงบริษัทในเครือ ได้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ และสร้างความสัมพันธ์อันดีซึ่งกันและกันในองค์กร การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามมาตรการสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพนักงานเป็นสำคัญ
เคทีซีได้เชิญนักกายภาพบำบัดจากสถาบัน รีบาลานซ์ คลินิก มาให้ความรู้และสอนท่ากายบริหารต่าง ๆ ให้กับพนักงาน ซึ่งสามารถทำได้ในบริเวณโต๊ะหรือที่ทำงานของตนเอง และมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องให้พนักงานได้ฝึกท่าบริหารต่าง ๆ และโพสต์คลิปหรือภาพของตนบน KTC UNITE พร้อมใส่ caption หรือข้อความเชิญชวนให้เพื่อนๆ ท่านอื่นมาบริหารร่างกายให้ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม เพื่อลดการเกิดอาการปวด คอ บ่า และไหล่ ที่เกิดจากการนั่งทำงานนาน ๆ จนอาจก่อให้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรมได้
“พนักงาน ” ถือเป็นทรัพยากรสำคัญและรากฐานของความสำเร็จอันยั่งยืนขององค์กร ซึ่งการทำงานในปัจจุบันในภาวะการณ์โควิดส่งผลต่อความเครียดของพนักงาน บริษ็ทเล็งเห็นถึงเรื่องดังกล่าว จึงได้มีการจัดบรรยายให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่อง “การจัดการความเครียด ความกดดันและความเข้าใจในปัญหาซึมเศร้า” ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาที่ส่งผลต่อทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพใจโดยจัดให้กับพนักงานโดยเปิดลงทะเบียนเข้าร่วมอย่างเท่าเทียมไม่ระบุตำแหน่งงานหรือคุณสมบัติของผู้เข้าร่วม ทั้งแบบ Offline และ Live สด โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องการจัดการความเครียด ความกดดัน และความเข้าใจในปัญหาซึมเศร้า และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ในการสังเกตตนเอง สังเกตคนรอบข้าง ดูแลซึ่งกันและกัน
บริษัทจัดกิจกรรมเพื่อให้พนักงานได้ร่วมการสืบสานประเพณีไทยผ่านการแต่งกาย KTC นพมาศ โดยเปิดโอกาสให้พนักงานทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQI+) ได้สามารถแสดงความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบการแต่งกายอย่างเท่าเทียม โดยใช้วิธีบันทึกเทปวิดีโอการนำเสนอชุดแต่งกายบนแพลตฟอร์มของบริษัท KTC UNITE และเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนได้ร่วมโหวตให้กับชุดที่สร้างสรรค์ที่สุดในกิจกรรมนี้เพื่อรับรางวัล
บริษัทจัดกิจกรรมให้พนักงานได้ถ่ายรูปกับสัตว์เลี้ยงที่บ้านของตัวเอง มาอวดโฉมให้เพื่อน ๆ ในเคทีซีได้ชมความน่ารักความผูกพันธ์ของแต่ละบ้าน เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีให้เกิดขึ้นกับกลุ่มพนักงานที่มีความรักในสัตว์เลี้ยงเหมือนกันได้มีพื้นที่ในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเรื่องสัตว์เลี้ยงผ่านแพลตฟอร์ม KTC UNITE ทั้งนี้ภาพสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการกดไลค์สูงสุดจำนวน 10 คน จะเป็นผู้ชนะและได้รับรางวัล
บริษัทจัดกิจกรรมให้พนักงานได้ใช้พื้นที่บนแพลตฟอร์ม KTC UNITE บอกรักแม่ผ่านสื่อ พร้อมโพสต์รูปของพนักงานและคุณแม่ ให้เห็นความรักและความผูกพันในครอบครัว และได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานแต่ละคน ในการคิด Content หรือวิธีการที่จะสื่อสารนำเสนอให้น่าสนใจ ให้เห็นถึงความรักที่มีต่อคุณแม่ซึ่งเป็นบุคคลอันเป็นที่รัก
บริษัทจัดกิจกรรมให้พนักงานคลายเครียดจากการทำงาน ซึ่งสามารถเริ่มง่าย ๆ จากสิ่งใกล้ตัว โดยให้ทบทวนตนเองว่ามีอะไรที่เก็บไว้ในบ้านแต่ไม่ได้ใช้ ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ทุกคนให้ความสำคัญกับการจัดระเบียบบ้านของตนเองและกล้าที่จะบอกถึงเหตุผลในการเก็บสิ่งของนั้นๆ และเมื่อสภาพแวดล้อมรอบตัวดี ก็จะส่งผลให้เรามีความเครียดและความกังวลลดน้อยลง ประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น โดยให้พนักงานร่วมสนุกกันผ่านการโพสต์สิ่งของที่ได้เก็บไว้ ผ่านแพลตฟอร์ม KTC UNITE
อัตราการขาดงาน (AR) | 2562 | 2563 | 2564 | 2565 |
---|---|---|---|---|
(อัตราการขาดงานจากการ บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจากการ ทำงาน รวมอื่นๆ ที่ไม่ใช่การลาที่ได้รับอนุญาต) | 1.09% | 1.08% | 1.55% | 2.92% |