ใช้ชีวิตอย่างไร ในยุคโควิด-19 แบบมีสติ

สรุปมาแล้ว...

: ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ในระยะที่ 3 อย่างแน่นอน แต่เราสามารถเตรียมตัวรับมือและป้องกันให้ดีได้

: ระยะที่ 3 หมายถึง ผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศจะเพิ่มขึ้น แม้ไม่ได้มีประวัติเดินทางไปในประเทศกลุ่มเสี่ยง และไม่สามารถสืบค้นได้ว่าติดเชื้อมาจากใคร

: เราสามารถป้องกันและดูแลตนเองได้ ด้วยการหลีกเลี่ยงที่แออัด อยู่ห่างคนที่มีอาการไอจาม ล้างมือบ่อยๆ รับประทานอาหารร้อนและใช้ช้อนกลาง รักษาสุขภาพให้แข็งแรง รวมทั้งกักตัวเองและพบแพทย์ หากสงสัยว่ามีอาการ

: การช้อปออนไลน์และสั่งอาหารผ่านแอพฯ จะกลายมาเป็นไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ สำหรับยุคโควิด-19 นี้

หลายวันที่ผ่านมา เราน่าจะได้ยินหลายต่อหลายข่าวจากแวดวงสาธารณสุขว่า ประเทศไทยคงหนีไม่พ้นการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ในระยะที่ 3 อย่างแน่นอน แต่ช้าก่อน! อย่าเพิ่งตื่นตกใจไป การออกมาประกาศอย่างเปิดเผยเช่นนี้ ก็เพื่อให้เราเตรียมตัวรับมือและป้องกันให้ดีต่างหาก

KTC จึงขอเสนอความรู้เบื้องต้นและเทคนิคบางอย่างในการรับมือโควิด-19 ชีวิตจะได้ไม่สะดุดไวรัสกัน

ก่อนอื่น.. 3 ระยะของ โควิด-19 คืออะไร?

ระยะที่ 1 : ผู้ติดเชื้อเดินทางจากประเทศที่มีการแพร่ระบาด ทางภาครัฐได้ทำการคัดกรองที่สนามบิน แต่ไม่สามารถคัดกรองได้ทั้งหมด เนื่องจากผู้เดินทางบางรายยังไม่แสดงอาการ
ระยะที่ 2 : ผู้เดินทางที่ผ่านจุดคัดกรองได้แพร่เชื้อให้กับคนไทย ทำให้เจ้าหน้าที่พอจะทราบที่มาของการแพร่โรค และมีจำนวนผุ้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งไทยเรากำลังอยู่ในระยะนี้
ระยะที่ 3 : ผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศจะเพิ่มขึ้น แม้ไม่ได้มีประวัติเดินทางไปในประเทศกลุ่มเสี่ยง และไม่สามารถสืบค้นได้ว่าติดเชื้อมาจากใคร ในระยะนี้ จำนวนผู้ป่วยจะสูงขึ้นหรือลดลง ก็ขึ้นอยู่กับมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่เชื้อของประเทศนั้น

แล้วเราจะทำอะไรได้ เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ระยะที่ 3?
กรมควบคุมโรค ได้แนะนำการปฏิบัติตัวในการป้องกันตนเองของคนไทย หากสถานการณ์โรคโควิด-19 เข้าระยะ 3 ไว้ 5 ข้อง่ายๆ

ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนแออัด หรือเป็นสถานที่ปิดแคบ
หลีกเลี่ยงคนที่มีอาการไอหรือจาม อยู่ห่างอย่างน้อย 2 เมตร ในบางกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย
อย่าเอามือที่ไม่สะอาดมาลูบจับบริเวณใบหน้า ตา จมูก หรือปาก
ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือด้วยเจลแอลกอฮอล์ 70%
รับประทานอาหารร้อน และไม่ควรแชร์อาหารกัน

และหากเราเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศเสี่ยง เราต้องสังเกตอาการป่วยอยู่ในที่พักจนครบ 14 วัน นับจากวันที่กลับ เพื่อผลที่ดีต่อตัวเอง และป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนรอบข้างและสังคมด้วย

ข้อสังเกต: มี 5 อาการของผู้ป่วยติดเชื้อที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ มีไข้ (88%), ไอแห้ง (68%), ไม่มีเรี่ยวแรง (38%), ไอแบบมีเสมหะ (33%), และ หายใจลำบาก (18%) นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นร่วมบ้างในบางราย เช่น เจ็บคอ, ปวดหัว, ปวดกล้ามเนื้อ และ หนาวสั่น อาการน้ำมูกไหล ไม่ใช่สัญญาณของโรคไวรัส Covid-19

หากต้องการหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงในประเทศไทย พร้อมติดตามสถานะผู้ติดเชื้อ ได้ที่ https://covidtracker.5lab.co/en

ไม่ออกจากบ้าน แล้วจะจัดการชีวิตอย่างไร?
จริงๆ การช้อปออนไลน์และสั่งอาหารผ่านแอพฯ ก็เป็นอะไรที่คนไทยเชี่ยวชาญกันอยู่แล้ว และในสถานสถานการณ์แบบนี้ ที่เราไม่ควรพาตัวเองออกไปยังพื้นที่เสี่ยง อีกทั้งการเดินทางที่ต้องเจอสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่น PM 2.5

แพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์และบริการดิลิเวอร์รี่ต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคโควิด-19 เอามากๆ ทำให้เรากินช้อปได้ไม่สะดุด แม้ไม่ต้องออกจากบ้าน และเพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์ยุคโควิดนี้ KTC ขอเพิ่มความสบายใจให้คุณมากขึ้น ด้วยโปรโมชั่นสุดคุ้มแบบรัวๆ สำหรับการกินช้อปแบบออนไลน์
แถมการสมัครบัตรเครดิตออนไลน์เดี๋ยวนี้นั้นก็ง่าย ไม่ต้องออกจากบ้านตั้งแต่การสมัครจนได้รับบัตร ที่สำคัญลดสัมผัสเชื้อโรค ที่มีโอกาสติดมากับการใช้เงินสดได้อีกด้วย

สมัครบัตรเครดิตที่นี่
ง่าย สะดวก ไม่ต้องออกจากบ้าน

หากสมัครบัตรเครดิตแล้ว เราอยากให้คุณคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

เรารวมโปรโมชั่นที่เหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้มาไห้แล้ว เลือกโปรที่ตรงกับคุณได้เลย

KTC TIP :
โปรโมชั่น ช้อปออนไลน์ อย่าลืมใช้โปรนี้ (คลิกภาพเพื่อดูรายละเอียด)

โปรอื่นๆทางออนไลน์อีกมากมายเพิ่มเติม (คลิก)

KTC TIP :
ไม่อยากออกข้างนอกสั่งอาหารผ่านแอพฯ หรือไปทำธุระแทน อย่าลืมใช้โปรนี้ (คลิกภาพเพื่อดูรายละเอียด)

แม้ดูเหมือนเราจะหลีกเลี่ยงการเข้าสู่ระยะที่ 3 ของการแพร่ระบาดโควิด-19 ไม่ได้ แต่การป้องกัน หลีกเลี่ยง เตรียมตัวรับมือ และดูแลตัวเองให้ดี นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด ก็จะทำให้เรามีชีวิตที่ปลอดภัย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือปรับตัวอย่างมีสติในทุกสถานการณ์ เพื่อเข้าใจและเรียนรู้ในทุกสถานการณ์ เริ่มต้นที่ตัวคุณเอง

สมัครบัตรเครดิตที่นี่