ตารางออมเงิน ตัวช่วยที่ทำให้คุณเก็บเงินได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะวัยไหน ใคร ๆ ต่างก็ต้องการที่จะเก็บออมเงินไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการบางอย่างของตนเอง โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่อยากได้แล็ปท็อป อยากได้รถ อยากได้บ้าน แต่เก็บเงินไม่อยู่สักทีเพราะบริหารเงินไม่เป็นและมีรายจ่ายเยอะ
เพื่อให้การเก็บเงินทำได้ง่ายขึ้น จำเป็นต้องหาสร้างวินัยในตัวเอง เราขอแนะนำตารางออมเงิน ตัวช่วยที่จะทำให้คุณสามารถเก็บเงินได้ตามเป้าหมายอย่างง่ายดาย และมีเงินออมไว้ใช้ในระยะยาว
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ตารางออมเงิน คืออะไร
ตารางออมเงิน คือ ตารางที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้เริ่มต้นเก็บเงิน สามารถเก็บเงินได้ทุกวันจนเป็นนิสัย ตามจำนวนเงินเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ โดยรูปแบบตารางจะมีการระบุจำนวนเงินที่ต้องการออมควบคู่ไปกับจำนวนวัน เช่น กำหนดเป็นตารางออมเงิน 1,000 บาท ในระยะเวลา 100 วัน ซึ่งควรตั้งเป้าหมายเงินออมโดยการคิดจาก 10% ของรายได้หรือค่าแรงขั้นต่ำที่ได้รับ เพื่อให้สามารถปฏิบัติการเก็บเงินตามตารางได้จริง และได้เงินออมครบตามที่ตั้งใจเอาไว้
ส่วนวิธีใช้ตารางการออมเงินก็ไม่ยาก ตัวตารางเก็บเงินจะเป็นไฟล์รูปภาพที่สามารถบันทึกใส่โทรศัพท์ได้ วันไหนที่เก็บเงินได้ตามเป้าหมาย ก็สามารถขีดฆ่าวันนั้นในตารางออก และทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะขีดฆ่าวันได้ครบหมดทั้งตาราง เมื่อวันในตารางถูกขีดครบแล้วทั้งหมด ก็จะได้เงินออมครบตามเป้าหมายที่กำหนดเอาไว้ ดังนั้น การใช้ปฏิทินออมเงินจึงนับเป็นวิธีเก็บเงินที่สร้างอุปนิสัยในการออมเงินได้ดี และหากใช้ตารางการเก็บเงินออมควบคู่ไปกับการใช้แอปรายรับรายจ่าย การออมเงินให้ได้ตามเป้าหมายก็จะยิ่งสำเร็จได้ง่ายมากขึ้น
ตารางออมเงิน 5,000 บาท
เริ่มต้นกันที่ตารางออมเงิน 5,000 บาท เป็นตารางออมเงินที่เหมาะกับคนเพิ่งเริ่มหัดเก็บออมให้เป็นนิสัย เนื่องจากกำหนดไว้ให้เริ่มออมเงินที่วันละ 5 บาทเท่านั้น จากนั้นค่อย ๆ ขยับขึ้นเรื่อย ๆ ทีละ 5-10 บาทจนกระทั่งถึง 100 บาทต่อวัน โดยมีรายละเอียดจำนวนเงินและจำนวนวันในการเก็บเงินดังต่อไปนี้
- ออมเงิน 5 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 10 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 15 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 20 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 30 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 40 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 50 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 60 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 80 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 90 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 100 บาท จำนวน 10 วัน
ดังนั้น ตัวอย่างตารางออมเงินนี้ จะสามารถเก็บเงินได้ครบ 5,000 บาทในระยะเวลา 110 วัน และเงินก้อนนี้จะช่วยลดปัญหาเงินหมด เงินไม่พอใช้ได้อย่างแน่นอน
ตารางออมเงิน 10,000 บาท
สำหรับตารางออมเงิน 10,000 บาท จะเป็นตารางออมเงินที่เหมาะกับวัยทำงาน และผู้ที่มีรายได้ปานกลาง หรือเหมาะสำหรับผู้ที่อยากออมเงินให้ได้มากขึ้นกว่าเดิมเพื่อเป้าหมายบางอย่าง เช่น นำเงินก้อนนี้ไปผ่อนคอนโด หรือเก็บไว้สำหรับการลาพักร้อนไปท่องเที่ยว ซึ่งตารางเก็บเงินรายวันสำหรับเป้าหมาย 10,000 บาทนี้ จะเริ่มต้นที่การเก็บเงินวันละ 10 บาท ไปจนถึงวันละ 200 บาท โดยมีรายละเอียดจำนวนเงินและจำนวนวันในการเก็บเงินดังต่อไปนี้
- ออมเงิน 10 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 20 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 30 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 40 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 60 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 80 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 100 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 120 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 160 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 180 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 200 บาท จำนวน 10 วัน
ดังนั้น จะสามารถเก็บเงินได้ครบ 10,000 บาท ในระยะเวลา 110 วันเท่านั้น และเงินจำนวนนี้จะสามารถสำรองไว้เป็นเงินฉุกเฉิน เผื่อเกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณได้อีกด้วย
ตารางออมเงิน 15,000 บาท
ท้าทายขึ้นไปอีกขั้นสำหรับตารางออมเงิน 15,000 บาท ในระยะเวลา 110 วัน ที่มีการเริ่มต้นเก็บเงินอยู่ที่วันละ 15 บาท และขยับจำนวนเงินเก็บเพิ่มไปครั้งละ 15-60 บาท ไปจนถึงวันละ 300 บาท โดยมีรายละเอียดจำนวนเงินและจำนวนวันในการเก็บเงินดังต่อไปนี้
- ออมเงิน 15 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 30 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 45 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 60 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 90 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 120 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 150 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 180 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 240 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 270 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 300 บาท จำนวน 10 วัน
สำหรับตารางออมเงินจำนวน 15,000 บาทนี้ หากสามารถเก็บเงินครบทั้งตารางได้ประมาณ 10 ตาราง ก็สามารถเอาเงินก้อนนั้นไปลงเรียนต่อปริญญาโท หรือเก็บไว้เป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายงานแต่งงานได้เลย
ตารางออมเงิน 30,000 บาท
พบกับความยากขั้นสุดสำหรับการเก็บเงิน ด้วยตารางออมเงิน 30,000 บาท ในระยะเวลา 110 วัน ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ค่อนข้างสูง และมีเป้าหมายในการเก็บเงินที่ชัดเจน ซึ่งตารางนี้จะเริ่มต้นเก็บเงินที่วันละ 30 บาท และขยับขึ้นทีละ 30 ไปจนถึง 120 บาท จนกว่าจะสามารถออมเงินได้วันละ 600 บาท โดยรายละเอียดจำนวนเงินและจำนวนวันในการเก็บเงินมีดังต่อไปนี้
- ออมเงิน 30 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 60 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 90 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 120 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 180 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 240 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 300 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 360 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 480 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 540 บาท จำนวน 10 วัน
- ออมเงิน 600 บาท จำนวน 10 วัน
หากสามารถปฏิบัติตามตารางออมเงินจำนวน 30,000 บาทนี้ได้สำเร็จ เป็นจำนวน 3 ตารางในระยะเวลาราว 1 ปี คุณจะมีเงินเก็บเฉียดแสนและวางแผนสำหรับการซื้อบ้านหลังแรกในอนาคตได้เลยทีเดียว
บัตรกดเงินสด KTC PROUD ตัวช่วยสร้างสภาพคล่องทางการเงินที่ดี เพื่อการออมที่มั่นคง
เมื่อคุณสามารถเก็บเงินตามตารางออมเงินได้ตามเป้าหมายแล้ว ก็ควรที่จะนำเงินออมก้อนนี้ไปชำระหนี้สินที่มี โดยเฉพาะหนี้ที่ดอกเบี้ยสูง เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายลง และหากคุณนำเงินออมไปชำระหนี้สินจนหมดแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องจะมีเงินไม่พอใช้ เพราะสามารถขอเบิกถอนสินเชื่อก้อนแรกได้ด้วยบัตรกดเงินสด KTC PROUD รับเงินไวทันทีที่อนุมัติ ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดสภาพคล่องทางการเงินอีกต่อไป ให้คุณสามารถใช้จ่ายได้อย่างสบายใจ และยังมีแบ่งเงินมาเก็บตามตารางออมเงินที่ตั้งไว้ได้อีกด้วย
* กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด หลีกเลี่ยงการเสียดอกเบี้ย 20-25% ต่อปี
เก็บเงินก้อนใหญ่ได้ไม่ยาก ด้วยตารางออมเงินที่ตั้งไว้
ตารางออมเงินสามารถสร้างวินัยและลักษณะนิสัยในการเก็บเงินได้เป็นอย่างดี เพราะจะต้องมีการขีดฆ่าจำนวนเงินที่สามารถออมได้ลงในตารางทุกวัน เมื่อมนุษย์เราทำสิ่งใดติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็ย่อมเกิดความเคยชิน และสามารถปฏิบัติต่อเนื่องได้อีกเรื่อยไป หากสามารถพิชิตเป้าหมายตามตารางเก็บเงินได้ครบทั้งหมด คุณก็จะได้รางวัลเป็นเงินออมก้อนใหญ่ ตอบแทนความอดทนที่คุณใช้ในการออมเงินทุกวันนั่นเอง
แบกรับภาระค่าใช้จ่ายรายเดือนน้อยลง เก็บเงินออมได้มากขึ้น ด้วยบัตรกดเงินสด KTC PROUD